ศูนย์ข่าวศรีราชา - "ศรีราชาฟาร์มฯ" เตรียมทุ่มงบหลายสิบล้านบาทสร้างตำนานใหม่สวนสัตว์ใหญ่กลางเมืองศรีราชา พร้อมเดินหน้าหลัง 15 ก.ค.นี้ เผยเตรียมทีมผู้บริหารรุ่นใหม่วางแผนรีโนเวตพื้นที่เดิมให้เป็น “นิวแลนด์มาร์ก” ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวไทย
ภายหลังจากที่ผู้บริหารบริษัท สวนเสือศรีราชา จำกัด ได้ประกาศปิดตำนาน 24 ปี “สวนเสือศรีราชา” สวนสัตว์ใหญ่ใจกลางเมืองที่เปิดรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมานานถึง 24 ปี หลังไม่สามารถประคองธุรกิจให้ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นยาวนานกว่า 1 ปีได้
ทำให้ผู้ที่ทราบข่าวพากันเสียดายแลนด์มาร์กใหญ่ทางการท่องเที่ยวของ จ.ชลบุรีแห่งนี้ เพราะนอกจากจะมีมีไฮไลต์สำคัญทั้งการเป็นศูนย์เพาะและขยายพันธุ์เสือโคร่งพันธุ์รอยัลเบงกอลที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว การแสดงเสือ จระเข้ ช้าง และหมูที่สามารถสร้างความสุขและสนุกสนานให้นักท่องเที่ยวได้อย่างยาวนานนั้น
วันนี้ (14 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสุเมธ ปัญญาสาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีราชาฟาร์มจระเข้และผลิตภัณฑ์ จำกัด ผู้จำหน่ายและส่งออกผลิตภัณฑ์จากจระเข้และฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้ขนาดใหญ่ของ จ.ชลบุรี รวมทั้งยังเป็นผู้ให้เช่าพื้นที่ดำเนินกิจการสวนเสือศรีราชา ว่าบริษัทฯ พร้อมที่จะเข้ารีโนเวตพื้นที่ภายในสวนสัตว์ต่อจากผู้เช่าเดิมหลังหมดสัญญาเช่าในวันที่ 15 ก.ค.นี้
เพื่อยังคงไว้ซึ่งการเป็นแลนด์มาร์กด้านการท่องเที่ยวในลักษณะสวนสัตว์ของเมืองศรีราชาต่อไป โดยจะใช้งบประมาณจำนวนหลายสิบล้านบาท ในการเข้าที่ปรับปรุงพื้นที่ส่วนต่างๆ ภายใต้การบริหารงานทีมผู้บริหารซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งหมด
“บริษัทฯ จะใช้ทีมผู้บริหารซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่เชื่อว่าจะสามารถกำหนดรูปแบบการปรับปรุงสวนสัตว์ให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นหลักได้ เนื่องจากเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายลงเมื่อใด โดยเบื้องต้นจะยังคงไว้ที่จุดขายการโชว์เสือและการแสดงของเสือ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว”
ทั้งนี้ จะใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการปรับปรุงพื้นที่สวนสัตว์ รวมทั้งจัดหาสัตว์ชนิดใหม่เข้าเพิ่มเติมจากเสือที่มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 400 ตัว เพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ก่อนในช่วงต้นปี 2565 โดยถือเป็นการรีโนเวตในเฟสแรกเพื่อให้เปิดดำเนินการได้ในช่วงแรก
โดยตามแผนงานได้แบ่งการรีโนเวตพื้นที่ออกเป็น 3 เฟส และจะใช้เวลารวมทั้งสิ้น 3 ปี และจะทยอยเปิดให้บริการทีละเฟสภายใต้ชื่อใหม่ที่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เชื่อว่าเมื่อครบระยะเวลา 3 ปีของการปรับปรุงสวนสัตว์แห่งใหม่นี้จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างเต็มรูปแบบ และเชื่อว่าจะเป็นช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
“เรามั่นใจว่าสวนสัตว์ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นภายใต้การบริหารงานของศรีราชาฟาร์มและผลิตภัณฑ์ จะรักษาแลนด์มาร์กเดิมไม่ให้หายไปไหน และจะกลายเป็น "นิวแลนด์มาร์ก" ที่จะกลับมาครองใจนักท่องเที่ยวได้อีกครั้งเพราะเรายืนยันตั้งแต่แรกแล้วว่าจะทำต่อจากผู้เช่าเดิมเพียงแต่ใช้ทีมผู้บริหารซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ที่สำคัญยังจะเป็นศูนย์อนุรักษ์เสือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอีกด้วย”
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ นายสุเมธ ได้เปิดเผยถึงแนวคิดในการรีโนเวตพื้นที่สวนสัตว์กลางเมืองศรีราชาว่า จะเป็นศูนย์รวมทางการท่องเที่ยวแบบครบวงจร เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของคนรุ่นใหม่ และกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบครอบครัวที่นิยมการพักผ่อนที่สามารถสัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด
โดยจะมีทั้งคอมมูนิตีมอลล์ ศูนย์อาหารและร้านกาแฟชื่อดังเพื่อให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้แบบครบวงจร นอกจากนั้น ยังจะปรับรูปแบบการแสดงเสือให้มีความหลากหลายในรูปแบบของโรงละคร พร้อมเพิ่มจำนวนสัตว์เพื่อตอบรับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล
ส่วนการจัดโปรโมชันลดราคาเครื่องหนังที่ทำจากจระเข้ลง 70% ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าหนังจระเข้ เนื้อจระเข้ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและอื่นๆ เพื่อหารายได้เลี้ยงพนักงานในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่นักท่องเที่ยวหลักไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศได้นั้น
บริษัท ศรีราชาฟาร์มจระเข้และผลิตภัณฑ์ จำกัด ยังคงเปิดพื้นที่ด้านหน้าให้เป็นแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตามปกติ จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าชอปสินค้าคุณภาพราคาสุดแสนประหยัดได้ในทุกวัน