คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้และผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ในวงเงินสินเชื่อรวม 1,800 ล้านบาท กรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินโดรงการ จำนวน 273.85 ล้านบาท โดยเป็นค่าชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 270 ล้านบาท สำหรับผู้กู้รายบุคคล ในอัตราดอกเบี้ย MRR ต่อปี (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ ร้อยละ 6.50 ต่อปี) โดยเรียกเก็บจากผู้กู้ในอัตรา MRR -3 (หรือปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 3.5 ต่อปี) และผู้กู้ที่เป็นนิติบุคคล ในอัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี (ปัจจุบัน MLR เท่ากับร้อยละ 4.875 ต่อปี) โดยเรียกเก็บจากผู้กู้ในอัตรา MLR - 3 (หรือปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 1.875 ต่อปี) โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. แทนผู้กู้ในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี นับแต่วันกู้ เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยให้ ธ.ก.ส. จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามขั้นตอนต่อไป สำหรับค่าดำเนินการโครงการเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชี้แจง ประชาสัมพันธ์โครงการ และติดตามโครงการ จำนวน 3.85 ล้านบาท นั้น เห็นสมควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมงพิจารณาหรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 หรือโอนเงินจัดสรร หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร แล้วแต่กรณี เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ การดำเนินโครงการดังกล่าวทำให้รัฐต้องชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ของหน่วยงานของรัฐ ตามนัยมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 จึงเห็นสมควรให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณและเกิดผลสัมฤทธิ์ รวมทั้งประโยชน์ที่ภาครัฐ เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้ และผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่อง จะได้รับอย่างยั่งยืน เห็นสมควรให้กระทวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการขอรับการสนับสนุนสินเชื่อ โดยคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างครอบคลุมและเป็นธรรม และตรวจสอบรายละเอียดคุณสมบัติเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้และผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องในการขอสินเชื่อให้เป็นตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดอย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ มีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ตลอดจนมีการประเมินผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการเป็นรายปี เพื่อให้มีข้อมูลในการบริหารงานอย่างถูกต้องครบถ้วน สำหรับประกอบการกำหนดนโยบายของภาครัฐที่เหมาะสมและยั่งยืนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ