เชียงใหม่ - เผยไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 17 ราย ส่วนใหญ่มีประวัติมาจากกรุงเทพฯ-ปริมณฑล บางส่วนเป็นคนขับรถขนส่งสินค้าเกษตรชาวแม่สอด สังสรรค์กับเพื่อนคนนครปฐม นครสวรรค์ โคราช
ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ว่า กรณีพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 17 รายล่าสุดทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-5 ก.ค. 64 เป็น 4,209 ราย รักษาหายแล้ว 4,110 ราย ยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภทจำนวน 73 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลรัฐ 62 ราย โรงพยาบาลเอกชน 11 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 26 ราย
ขณะที่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 42 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 23 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 7 ราย และผู้ป่วยอาการหนัก (สีแดง) 1 ราย
โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 17 ราย แบ่งออกเป็น 9 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. CM 4276 เพศหญิง อายุ 1 ขวบ เป็นผู้สัมผัส CM 4259 ซึ่งเป็นแม่ ตรวจครั้งแรกเป็นลบ วันที่ 3 กรกฎาคม เริ่มมีอาการไอ จึงกักตัวอยู่กับยายที่บ้าน จากนั้นวันที่ 4 กรกฎาคม ได้ตรวจพบเชื้อ ทำให้คุณยายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
2. CM 4277, 4278, 4279, 4280 เป็นครอบครัวเดียวกัน พ่อมีอาชีพขายกาแฟหน้าโรงพยาบาลสันทราย ยังหาแหล่งสัมผัสโรคไม่ได้ แต่เชื้อได้แพร่กระจายสู่ภรรยาและบุตร โดยบุตรคนเล็กอายุ 4 ขวบ เรียนอยู่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 22 ราย ในชุมชน 6 ราย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 16 ราย อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ ขณะที่ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำกำลังทำการสอบสวน
3. ไซต์งานก่อสร้างโรงเรียนเอกชน 3 ราย คือ CM 4281, 4284, 4292 ทั้งหมดเป็นเพศชาย โดย CM 4284 และ 4292 เป็นช่างเฟอร์นิเจอร์ เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ส่วน CM 4281 เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง เดินทางมาจากปทุมธานี ซึ่งทั้งหมดมีอาการในช่วงวันที่ 26-27 มิถุนายน และเข้ารับการตรวจหาเชื้อในวันที่ 4 กรกฎาคม ขณะนี้มีผู้เสี่ยงสูงที่อยู่ระหว่างรอผลการตรวจอีกหลายคน ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำให้เฝ้าสังเกตอาการและรอการตรวจ
4. CM 4282 เป็นหญิง อายุ 62 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอดอยสะเก็ด สัมผัสกับลูกสาวที่เดินทางไปทำเลสิกที่โรงพยาบาลพระราม 9 กรุงเทพฯ ตรวจพบเชื้อจากการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเข้ารับการตรวจ โดยไม่มีอาการ รายนี้ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ แต่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 2 ราย พบผลเป็นบวก 1 ราย และผลเป็นลบ 1 ราย ซึ่งผู้มีผลเป็นลบให้กักตัว และสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการให้เข้ารับการตรวจทันที
5. CM 4283 เป็นหญิง อายุ 28 ปี บุคลากรทางการแพทย์ ทำงานแผนกหอผู้ป่วยโรคโควิด-19 โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ มีไทม์ไลน์ไปในหลายสถานที่ วันที่ 2 กรกฎาคม เริ่มมีอาการไอ มีน้ำมูก หายใจลำบาก อาการไม่ดีขึ้นจึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อในวันที่ 4 กรกฎาคม พบผลเป็นบวก ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามกลุ่มเสี่ยงสูง และสอบสวนกลุ่มเสี่ยงต่ำ
6. CM 4285 และ CM 4286 เป็นหญิงและชาย อายุ 22 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอหางดง อาชีพขับรถขนส่งสินค้า วันที่ 1-3 กรกฎาคม ได้เดินทางไปส่งของในหลายจังหวัด ทั้งกรุงเทพฯ ชลบุรี ปราจีนบุรี นครนายก และอุตรดิตถ์ จากนั้นเดินทางกลับเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่และเข้ารับการตรวจหาเชื้อ เนื่องจากมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวและเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงมา อยู่ระหว่างสอบสวนกลุ่มผู้สัมผัส
7. CM 4287 เป็นชาย อายุ 25 ปี มีภูมิลำเนาในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ เดินทางไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลตำรวจกับมารดา ผู้ติดเชื้อรหัส CM 4270 กลับมาจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 26 มิถุนายน 2564 และได้กักตัวอยู่ที่บ้านตลอด ซึ่งมารดาได้เข้ารับการตรวจและพบเชื้อในวันที่ 3 กรกฎาคม จากนั้นวันที่ 4 กรกฎาคม บุตรชายจึงเข้ารับการตรวจและพบเชื้อเช่นกัน กลุ่มนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงร่วมบ้าน 2 ราย ผลเป็นบวก 1 ราย และเป็นลบ 1 ราย ส่วนผู้สัมผัสบนสายการบิน VietJet Air เที่ยวบินที่ VZ102 จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถึงจังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 26 มิถุนายน เวลา 10.00-11.10 น. อยู่ระหว่างการติดตามตัว
8. CM 4288 เป็นชาย อายุ 59 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่อำเภอสันกำแพง รับราชการที่สถานีขนส่งในกรุงเทพฯ เดินทางไป-มาระหว่างกรุงเทพฯ และเชียงใหม่เป็นประจำ ซึ่งวันที่ 3 กรกฎาคม ได้เดินทางกลับมาเชียงใหม่ด้วยรถยนต์ส่วนตัว วันที่ 4 กรกฎาคม ทราบข่าวว่าเพื่อนร่วมงานติดเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารับการตรวจ โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงร่วมบ้าน 1 ราย อยู่ระหว่างรอผล ส่วนผู้สัมผัสบนสายการบิน Air Asia เที่ยวบินที่ FD7427 เวลา 10.30-11.40 น. กทม.-ชม. และ Thai Lion Air เที่ยวบินที่ SL511 เวลา 13.15-14.30 น. ชม.-กทม. อยู่ระหว่างการสอบสวน
9. CM 4289, 4290, 4291 มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก อาชีพขนส่งสินค้าทางการเกษตร ทั้งหมดได้ร่วมสังสรรค์กับเพื่อนที่มาจากจังหวัดนครปฐม นครสวรรค์ และนครราชสีมา รวม 9 คน วันที่ 2 กรกฎาคม CM 4289 ได้เดินทางไปส่งสินค้าที่ปทุมธานี ตาก และเริ่มมีอาการ จากนั้นวันที่ 3 กรกฎาคมทราบว่าเพื่อนที่นครปฐมติดโควิด-19 จึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อที่อำเภอฮอด และพบผลเป็นบวก ส่วน CM 4290 และ CM 4291 เดินทางไปส่งสินค้าทางการเกษตรหลายจังหวัดเช่นกัน และได้กลับมายังจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม เมื่อทราบว่าเพื่อนที่นครปฐมติดโควิด-19 จึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อ โดยกลุ่มนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 10 ราย เป็นคนในครอบครัว 7 ราย ชุมชน 3 ราย อยู่ระหว่างรอผล ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค
จากกรณีดังกล่าว จึงขอเน้นย้ำผู้ที่ขับรถรับส่งสินค้า หากเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง 10 จังหวัด ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมถึงอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อกลับเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่แล้วให้เข้ารับการตรวจคัดกรองหาเชื้อได้ที่โรงพยาบาลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้ประสานเรื่องการเบิกจ่ายไปทาง สปสช.แล้ว สามารถเข้ารับการตรวจได้ฟรี ตามมติของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ และขอความร่วมมือกักตัวอย่างจริงจัง หากจะออกไปส่งของขอให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อทุกครั้งอย่างเคร่งครัด