เชียงใหม่-เชียงใหม่ติดเชื้อโควิด-19อีก 5 ราย 3รายสัมผัสจากพื้นที่เสี่ยง อีก 2 รายจากกิจกรรมรวมกลุ่ม ทั้งนี้ตรวจพบสายพันธุ์เดลตาเพิ่ม 3 ราย รวมเป็น 14 รายแล้ว เน้นย้ำผู้เดินทางจากต่างจังหวัดเข้าพื้นที่เชียงใหม่ต้องลงทะเบียนCM-Chanaทุกคน พร้อมเตือนผู้ให้ที่พักมีความผิดด้วย
วันนี้ (3 ก.ค. 64) ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ รายงานสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ประจำวันว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่ม 5 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 4,185 ราย รักษาหายแล้ว 4,101 ราย รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 58 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลรัฐ 47 ราย และ โรงพยาบาลเอกชน 11 ราย แยกเป็นกลุ่มสีตามอาการ แยกเป็นผู้ป่วยสีเขียว 34 ราย สีเหลือง 17 ราย สีส้ม 6 ราย และสีแดง 1 ราย วันนี้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 26 รายเท่าเดิม
โดยการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มเสี่ยงสูงหรือผู้สัมผัส เมื่อวานนี้ (2 ก.ค. 64) ตรวจไปทั้งหมด 1,060 ราย พบติดเชื้อ 5 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.47 ส่วนปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อนั้น ช่วงนี้จะพบผู้ที่สัมผัสเชื้อจากต่างจังหวัด แล้วเดินทางเข้ามาจังหวัดเชียงใหม่ทุกวัน ซึ่งรายใหม่วันนี้ 3 ใน 5 ราย เป็นการสัมผัสโรคจากต่างจังหวัดแล้วเดินทางเข้ามาตรวจพบเชื้อในจังหวัด และอีก 2 รายเป็นผู้สัมผัสในชุมชนจากกิจกรรมที่ดำเนินการร่วมกัน
ทั้งนี้จึงขอเน้นย้ำผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ ต้องเคร่งครัดในมาตรการจังหวัดเชียงใหม่ ลงทะเบียน CM Chana และกักตัวอย่างจริงจัง และการกักตัวที่บ้านท่านต้องแยกห่างจากคนในครอบครัวให้ชัดเจน ทั้งแยกห้องนอน ห้องน้ำ การรับประทานอาหาร และกิจกรรมที่ทำร่วมกัน จึงจะทำให้ญาติพี่น้องของท่านปลอดภัยจากโรคโควิด-19 หากไม่ปฏิบัติตาม ก็จะพบผู้สัมผัสจำนวนมาก และอาจระบาดขยายวงกว้างเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ๆ ได้
สำหรับคลัสเตอร์จังหวัดเชียงใหม่ เหลือเฝ้าระวัง 2 คลัสเตอร์ ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง 1 คลัสเตอร์ และ คลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด 1 คลัสเตอร์ แต่ทั้ง 2 คลัสเตอร์ ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่หลายวันมาแล้ว ส่วนการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา(อินเดีย)นั้น เมื่อวานนี้ตรวจหาสายพันธุ์เชื้อ พบเป็นสายพันธุ์เดลตา เพิ่ม 2 ราย และมีการแพร่ระบาดในกลุ่มญาติใกล้ชิดอีก 1 ราย รวมเพิ่ม 3 ราย รวมทั้งหมดจากเดิมที่รายงานไปแล้ว 14 ราย แต่ยังเป็นการติดเชื้อที่แพร่กันในวงจำกัด ในกลุ่มเครือญาติ เนื่องจากผู้ติดเชื้อที่นำเข้ามามีการกักตัวและตรวจพบเร็ว และมีการควบคุมโรคอย่างรวดเร็ว
โดยสายพันธุ์เดลตานั้น อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้รวดเร็ว แต่การก่อให้เกิดความรุนแรงของโรคไม่ว่าสายพันธุ์ไหนก็ไม่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงขอฝากเตือนให้พี่น้องประชาชน ให้ปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หากปฏิบัติได้ดีเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใดก็จะไม่เกิดการระบาดเป็นวงกว้าง รวมทั้งต้องร่วมใจกันฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ให้มากๆ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางเข้ามาจากพื้นที่เสี่ยงต้องกักตัวและรักษาระยะห่างจากบุคคลใกล้ชิด
ขณะที่รายละเอียดของผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 รายนั้น รายแรกรหัส CM 4264 เป็นชาย อายุ 46 ปี ภูมิลำเนาอำเภอสันทราย เริ่มมีอาการไข้ ไอ มีเสมหะ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 64 โดยเมื่อ 27 มิ.ย.64ได้เดินทางไป กทม. เพื่อเยี่ยมแม่ที่ป่วย พักที่คอนโดบางโพ แขวงบางซื่อ ,วันที่ 28 มิ.ย.64 พาแม่ไปตรวจที่ รพ.ยันฮี ,วันที่ 30 มิ.ย.64 แม่มีอาการหายใจลำบาก พาไปตรวจที่ รพ. มงกุฎวัฒนะ ต่อมาพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นวันที่ 1 ก.ค.64 ขับรถส่วนตัวกลับเชียงใหม่ และไปรับการตรวจหาเชื้อที่ รพ. เอกชน นอนรอผลอยู่ในรถส่วนตัว ไม่ได้กลับบ้าน เมื่อทราบผลว่าติดเชื้อ จึงเข้ารับการรักษาทันที รายนี้ไม่มีผู้สัมผัสในจังหวัด เนื่องจากเมื่อเข้ามาถึงเข้ามารับการตรวจทันที และกักตัวรอผลในรถส่วนตัว
รายต่อมารหัส CM 4265 เป็นชาย อายุ 58 ปี ภูมิลำเนาอำเภอดอยเต่า เริ่มมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น เมื่อ 29 มิ.ย. 64 โดยช่วง 25-28 มิ.ย.64 ได้ไปร่วมงานศพที่บ้านฉิมพลี หมู่ 4 ตำบลดอยเต่า สัมผัสกับญาติที่เดินทางมาร่วมงานศพจาก กทม. 8 ราย ทั้งหมดไม่ลงทะเบียน CM-Chana และรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ โดยวันที่ 29 มิ.ย.64 เดินทางไปหลายแห่งในอำเภอจอมทอง และดอยเต่า จากนั้นไปตรวจที่ รพ. ดอยเต่า เนื่องจากจมูกไม่ได้กลิ่น โดยไม่ได้แจ้งความเสี่ยงให้กับเจ้าหน้าที่ จึงไม่ได้ตรวจหาเชื้อ ต่อมาวันที่ 30 มิ.ย.64 พักอยู่ที่บ้าน และทราบว่าผู้ที่มาจาก กทม. 1 รายพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ที่ กทม. จากนั้นวันที่ 1 ก.ค.64 จึงเข้าไปตรวจหาเชื้อที่ รพ. ดอยเต่า และวันที่ 2 ก.ค.64 พบผลเป็นบวก พร้อมเข้ารักษาตัวที่ รพ. จอมทอง รายนี้มีผู้สัมผัสจำนวนมาก ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 ราย สัมผัสร่วมบ้าน 2 ราย ร่วมโต๊ะอาหารในงานศพ 2 ราย ทั้งหมดอยู่ระหว่างรอผลตรวจ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ คือ ผู้ร่วมงานศพไม่เกิน 150 ราย ตรวจแล้ว 15 ราย พรุ่งนี้นัดตรวจคัดกรองทั้งหมด และบุคลากรทางการแพทย์ รพ. ดอยเต่า 12 ราย ทั้งหมดที่ตรวจแล้วกำลังรอผลตรวจ
รายที่ 3 รหัส CM 4266 เป็นชาย อายุ 63 ปี ภูมิลำเนาสันกำแพง เริ่มมีอาการอ่อนเพลีย ครั่นเนื้อครั่นตัว เมื่อ 28 มิ.ย.64โดยวันที่ 17 มิ.ย. เดินทางไป กทม. ด้วยรถยนต์ส่วนตัวพร้อมลูกสาว เข้าพัก และติดต่อหน่วยงานหลายแห่ง วันที่ 21 มิ.ย เดินทางกลับเชียงใหม่ และกักตัวที่บ้านจนกระทั่งวันที่ 2 ก.ค.64 อาการป่วยไม่ดีขึ้นจึงเข้ารับการตรวจที่ รพ. มหาราชนครเชียงใหม่ และทราบผลเป็นบวกในเวลาต่อมา เข้ารับการรักษาที่ รพ.มหาราชฯ รายนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพียง 1 ราย คือ บุตรสาว กำลังรอผลตรวจ ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำไม่มี เนื่องจากมีการกักตัวที่บ้าน
รายที่ 4 รหัส CM 4267 เป็นหญิง อายุ 21 อาชีพพนักงานบริษัท เริ่มมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ วันที่ 2 ก.ค. 64 เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจาก กทม. พร้อมกับเพื่อน และผู้ติดเชื้อรหัส CM 4251 เมื่อทราบผลตรวจของ CM 4251 เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. จึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ผลเป็นลบ จึงเข้ารับการกักกันที่สถานกักกันของรัฐพร้อมกับเพื่อนอีก 1 ราย ระหว่างกักตัวเริ่มมีอาการ ทีมตรวจคัดกรอง สสจ. เชียงใหม่จึงตรวจหาเชื้อให้อีกครั้ง ผลการตรวจครั้งที่ 2 พบเชื้อ เข้ารักษาตัวที่ รพ. นครพิงค์ ไม่มีผู้สัมผัสเพิ่ม เนื่องจากตรวจพบขณะกักตัวใน Local Quarantine
สุดท้ายรหัส CM 4268 เป็นชาย อายุ 43 ปี ภูมิลำเนาอำเภอหางดง เริ่มมีอาการไข้ เจ็บคอ เมื่อ 29 มิ.ย.64 ผู้ติดเชื้อรายนี้เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของ CM 4238 อาจารย์สอนดนตรี ร่วมกิจกรรมเล่นรถบังคับวิทยุ ที่ลานชั้น 2 ตลาดศิริวัฒนา พอทราบว่าเพื่อนติดเชื้อ เข้ารับการตรวจหาเชื้อเมื่อ 27 มิ.ย.64 ผลเป็นลบ ระหว่างกักตัวที่บ้านเริ่มมีอาการ วันที่ 30 มิ.ย.64 ไปตรวจที่คลินิกโชตนา ได้ยามารับประทาน อาการดีขึ้น วันที่ 2 ก.ค.64 เข้ามารับการตรวจอีกครั้ง พบผลบวก กำลังเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล อยู่ระหว่างสอบสวนหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำเพิ่มเติม
ในส่วนของผู้เดินทางเข้ามาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด และได้ดำเนินการลงทะเบียน CM Chana สะสม 22,939 ราย ติดตามตัวได้ 19,063 ราย คิดเป็นร้อยละ 83.10 โดยอำเภอเมืองเชียงใหม่ติดตามตัวได้น้อยที่สุด เพียงร้อยละ 71.33 ส่วนผู้ที่ไม่ลงทะเบียน CM Chana ที่ทีมโควิดหมู่บ้านติดตามได้เพิ่มมากขึ้นถึง 108 ราย พบผู้กระทำผิดนี้มากในอำเภอแม่แตง ฝาง สันทราย และแม่อาย แสดงว่ายังมีผู้ที่ทีมโควิดหมู่บ้านยังหาตัวไม่พบอีกจำนวนมาก ดังนั้น ขอให้เจ้าบ้าน ผู้ให้ที่พักอาศัย โรงแรม คอนโด หอพักต่างๆ ต้องแจ้งผู้ที่เข้าพักให้ปฏิบัติตามคำสั่ง คณะกรรมการโรคติดต่อฯ และท่านต้องแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าพนักนักงานในพื้นที่ทันที ถ้าไม่ปฏิบัติจะถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย
สำหรับการฉีดวัคซีนจังหวัดเชียงใหม่นั้น จากสถานการณ์ปัจจุบันอยากเชิญชวนประชาชนทุกคนต้องรีบตัดสินใจเข้ามาร่วมเป็นก๋ำแปงเวียง ปกป้องโรคโควิด-19 ให้คนเชียงใหม่กัน โดยร้อยละ 70 ของประชากรจังหวัดเชียงใหม่ที่ต้องรับการฉีดวัคซีน ประมาณ 1.2 ล้านคน ขณะนี้มีผู้ประสงค์ฉีดแล้ว 851,598 คน คิดเป็นร้อยละ 71 คงค้างอีกร้อยละ 29 จึงจะไปถึงเป้าหมายในการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ที่ป้องกันโรคโควิด-19 ได้ โดยขณะนี้มีผู้ที่ได้รับการฉีดไปแล้ว 144,195 คน คิดเป็นร้อยละ 12 จึงขอเชิญชวนพี่ทุกท่านที่ยังลังเล หรือไม่ประสงค์ฉีด ให้รีบจองคิวฉีดผ่านระบบ “ก๋ำแปงเวียง” ที่เดียวเท่านั้น มาร่วมกันเป็นฉีดวัคซีน เพื่อเชียงใหม่จะได้เดินหน้าต่อไป