เชียงราย - การค้าชายแดนไทย-ลาว-จีนผ่านสะพานข้ามโขง 4-เส้นทางอาร์สามเอเริ่มฟื้น..ปีงบประมาณ 64 แค่ 9 เดือนส่งออกแล้วกว่า 17,000 ล้าน เกือบเท่าปี 63 ทั้งปี พบผลไม้ไทยยอดพุ่ง
ขณะนี้สถานการณ์การค้าชายแดนผ่าน อ.เชียงของ จ.เชียงราย-เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น หลังซบเซาหนักจากวิกฤตโควิด-19 เมื่อช่วงต้นปี 2563 เป็นต้นมา สินค้าส่งออกส่วนใหญ่ยังคงเป็นประเภทผลไม้สด เครื่องอุปโภค น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ โดยเฉพาะผลไม้มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
นายพีรกานต์ บูรณากาญจน์ นายด่านศุลกากรเชียงของ เปิดเผยว่า ปัจจุบันสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่มีการเปิดพรมแดนเพื่อทำการติดต่อด้านการค้ากับ สปป.ลาว ซึ่งในเขตรับผิดชอบของด่านศุลกากรเชียงของพบว่าสินค้ากว่า 95-98% มีการนำเข้าและส่งออกผ่านสะพานแห่งนี้ ส่วนที่เหลือเป็นการค้าผ่านทางด่าน จ.พะเยา ที่เชื่อมกับแขวงไซยะบุรี สปป.ลาว
ณ ปัจจุบัน เมื่อเปรียบเทียบกับการค้าชายแดนเมื่อปี 2563 ถือว่าดีขึ้น โดยเฉพาะในเดือน เม.ย. 2563 ที่มีการเข้มงวดมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 บริเวณด่านพรมแดน ทำให้มูลค่าการค้าลดฮวบลงกว่า 80% แต่หลังจากรัฐบาลและ จ.เชียงรายได้ผ่อนปรนเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้าและส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
แม้ว่าในปัจจุบัน สปป.ลาวจะมีมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่เข้มงวดคือไม่อนุญาตให้รถขนส่งสินค้าจากต่างประเทศเข้าไปในประเทศได้ ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนหัวลากบริเวณด่านพรมแดนฝั่ง สปป.ลาว ก่อนที่สินค้าไทยส่วนใหญ่จะขนส่งไปตามถนนอาร์สามเอไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ สู่ด่านบ่อเต็น-บ่อหาน ชายแดน สปป.ลาว-จีน แต่ผู้ประกอบการก็เริ่มปรับตัวได้แล้ว
นอกจากนี้ ทาง สปป.ลาวยังผ่อนปรนให้รถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง ปูนซีเมนต์ ฯลฯ สามารถขนส่งผ่าน อ.เชียงของ ไปส่งยังเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำในโครงการคิงส์โรมัน เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้อีกด้วย เพราะจุดดังกล่าวมีการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่รองรับสัมปทานพัฒนาพื้นที่ยาว 99 ปีด้วย
ซึ่งจะเห็นได้ว่าห้วง 9 เดือนของปีงบประมาณ 2564 มูลค่าการค้าได้เริ่มจะกลับมาเท่าเดิม เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2563 ที่มีการนำเข้ามูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท และส่งออกประมาณ 18,000 ล้านบาทแล้ว พบว่าในปีงบประมาณ 2564 จนถึงเดือน พ.ค.มีการนำเข้าแล้วประมาณ 5,000 ล้านบาท และส่งออกประมาณ 17,000 ล้านบาท ซึ่งขณะที่ยังไม่ครบปีงบประมาณและเหลืออีกหลายเดือนก็ยังมีมูลค่าใกล้เคียงกันแล้ว แสดงว่าการค้าได้กลับมาเหมือนเดิม เพราะมีการผ่อนปรนมาตรการในการนำเข้าและออกส่งสินค้าดังกล่าว
อนึ่ง ด่านศุลกากรเชียงของรายงานว่า ในปีงบประมาณ 2564 เดือน ต.ค. 2563 มีการส่งออก 456,547,398.60 บาท เดือน พ.ย.เพิ่มขึ้นเป็น 1,099,768,991.74 บาท เดือน ธ.ค. 1,731,446,937.10 บาท เดือน ม.ค. 2564 มูลค่า 1,821,620,879.39 บาท เดือน ก.พ. 1,500,994,025.83 บาท เดือน มี.ค. 737,007,756.78 บาท เดือน เม.ย. 3,046,902,920.26 บาท และเดือน พ.ค. 3,756,906,172.30 บาท ขณะที่การนำเข้าส่วนใหญ่เป็นผลไม้สดและผักสดมีมูลค่าระหว่าง 100-500 ล้านบาทต่อเดือน