กาญจนบุรี - 2 พี่น้องนายพรานชาวพม่าออกล่าสัตว์ป่า สุดท้ายไม่รอด โดนรวบทั้งคู่ สัตว์ป่าไม่ได้ แถมต้องติดคุกหัวโต
วันนี้ (24 มิ.ย.) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายพีรวัฒิ สิโรตม์พิพัฒ หัวหน้าอุทยาน แห่งชาติเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยมีพฤติกรรมเข้าไปล่าสัตว์ป่าบริเวณป่าบ้านทาเสา หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค พิกัด 47 P 0506589 E 1579332 N (WGS 84) ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเอราวัณ หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้นายณรงค์ฤทธิ์ พวงแก้ว พนักงานพิทักษ์ป่า นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยาน ที่ อว.3 (วังบาดาล) เดินทางไปตรวจสอบ
จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงอาวุธดังขึ้น 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังกันเข้าปิดล้อม ผลปรากฏพบนายพรานเป็นชาย 1 ราย ยืนถืออาวุธปืนอยู่บริเวณป่าเชิงเขา เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม แต่เมื่อนายพรานเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็วแล้วหายตัวไป
เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังกันออกค้นหาผลปรากฏว่า พบนายพรานคนดังกล่าวไปหลบซ่อนตัวอยู่ในโขดหิน และสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ พร้อมอาวุธปืนลูกกรดยาวไทยประดิษฐ์ขนาด .22 ไม่มีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 44 นัด ทราบชื่อคือ นายมิน อ่อง ไม่มีนามสกุล ชาวพม่า อยู่บ้านเลขที่ 593 หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี โดยไม่พบสิ่งผิดกฎหมายประเภทซากสัตว์ป่าแม้แต่ชนิดเดียว
จากการสอบถามนายมิน อ่อง ให้การว่า ตนเข้ามาล่าสัตว์ป่าพร้อมน้องชายคือ นายมิน เทท โดยน้องชายที่มาด้วยกันกำลังนอนเล่นอยู่ที่เปล จุดพักค้างแรมที่อยู่ไม่ไกลมากนัก เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายมิน อ่อง ให้นำพาไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบนายมิน เทท กำลังนอนเล่นอยู่ที่เปล และสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ ตรวจค้นจุดพักค้างแรมพบมีดเหน็บ จำนวน 1 เล่ม ไฟฉายคาดหัว จำนวน 2 อัน กระเป๋าสะพายหลังสีดำ จำนวน 2 ใบ เปลนอน 2 ผืน เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง พร้อมกับคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่หน่วยพิทักษ์อุทยาน ที่ อว.3 (วังบาดาล)
หลังจากผู้ต้องหาทั้ง 2 ยอมรับสารภาพ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 20 ฐาน "บุคคลซึ่งเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ปฏิบัติ" ระวางโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท และมาตรา 19 (7) ฐาน "ห้ามนำเครื่องมือล่าสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตอุทยาน" ระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7 ฐาน"มีอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาต ระวางโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท