กาญจนบุรี - ป.ป.ช.คดีสิ่งแวดล้อม ส่งหนังสือขอหลักฐานเพิ่มเติม หลัง ผอ. สบอ.3 (บ้านโป่ง) ยื่นหลักฐานสอบ 6 จนท. รัฐออก น.ส 3.ทับซ้อนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เนื้อที่กว่า 250 ไร่
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ดำเนินการ ปราบปรามการบุกรุกทำลายป่าของนายทุน อย่างเด็ดขาด
โดยเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา ตนเองพร้อมด้วยนายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี ได้ยื่นหนังสือให้ นายหิรัณย์เศรษฐ เหยี่ยวประยูร ผอ.ไต่สวนคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ป.ป.ช.เพื่อร้องเรียนให้สอบสวนการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) จำนวน 4 แปลง เนื้อที่รวม 251 ไร่ ที่ออกโดยมิชอบในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ มาแล้วครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ เพื่อขอให้ตรวจสอบ นายปรีชา พงษานุสรณ์ ตำแหน่งพนักงานที่ดินระดับ 1 รังวัดสอบสวนที่ดินตามคำขอตามใบจองในแปลงที่ดิน ในปี พ.ศ.2518 และนายธนวัฒน์ วีระโชติ อดีตนายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เป็นผู้ออกใบจอง (น.ส.2) ในปี พ.ศ.2519 และเปลี่ยนเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) ในปีเดียว
โดยมีนายวชิระ อุณจักร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระขณะนั้น เป็นผู้รับรองว่าแปลงที่ดินอยู่นอกเขตเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ในปี พ.ศ.2528 รวมทั้งช่างรังวัดชำนาญงาน เป็นผู้รังวัดพื้นที่แปลงที่ดิน เพื่อเปลี่ยนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ในปี พ.ศ.2556 และผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ทำหน้าที่แทนนายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เป็นผู้รับรองแนวเขตแปลงที่ดินว่าไม่ได้อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ และไม่ได้อยู่ในเขตป่าถาวร
ต่อมา ปี พ.ศ.2556 นายสุวัฒน์ เกิดผล เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ลงนามแทนนายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) โดยทับซ้อนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาในปี พ.ศ.2508 และทับซ้อนเขตป่าถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ที่ประกาศในวันที่ 31 ก.ค.2516 บริเวณบ้านแก่งปลากด หมู่ 5 ต.ช่องสะเดา อ.เมืองกาญจนบุรี
หลังจากได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้ ผอ.ป.ป.ช.ในวันดังกล่าว ล่าสุด วันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ได้มีหนังสือขอให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) จัดส่งเอกสารประกอบคำกล่าวหาเพิ่มเติม ประกอบด้วยบันทึกการตรวจยึดจับกุมของคณะพนักงานเจ้าหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ฉบับลงวันที่ 8 ก.ค.2561 แผนที่แนบท้ายบันทึกการตรวจยึดจับกุม ซ้อนทับภาพถ่ายทางอากาศโครงการ WWS พ.ศ.2496 บริเวณป่าบ้านแก่งปลากด พิกัด 48 P 527760 E 527760 N (WGS 84) มาตราส่วน 1:10,000 หมู่ที่ 5 ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมืองกาญจนบุรี ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ
แผนที่ภาพถ่ายออร์โธสี ปี 2545 บริเวณป่าบ้านแก่งปลากด พิกัด 48 P 527760 E 527760 N (WGS84) มาตราส่วน 1:6,000 หมู่ที่ 5 ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมืองกาญจนบุรี ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับสารบบเรื่องราวการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3ก.) ซึ่งปรากฏอยู่ในแผ่นบันทึกข้อมูล (CD) ตามที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ได้จัดทำ และส่งมอบเป็นพยานหลักฐานประกอบเรื่องกล่าวหา โดยสำเนาเป็นเอกสารตามที่ปรากฏในแผ่นบันทึกข้อมูลดังกล่าว และทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้ทำหนังสือลงวันที่ 17 มิ.ย.2564 จัดส่งเอกสารพยานหลักฐานเพิ่มเติมดังกล่าวไปให้ ป.ป.ช.เรียบร้อยแล้ว
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ทาง ป.ป.ช.คงจะดำเนินการตรวจสอบ ไต่สวน อาจชี้มูลความผิด และเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) ที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระได้ไม่เกิน 2-3 ปี เพราะตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ฉบับใหม่ ตามมาตรา 48 กำหนดกรอบระยะเวลาการไต่สวน โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี อาจขยายได้แต่รวมแล้วไม่เกิน 3 ปี โดยระยะเวลาดังกล่าวอยู่ภายใต้กำหนดอายุความ และตามมาตรา 82 วรรคสาม ยังให้อัยการสูงสุด หรือคณะกรรมการ ป.ป.ช. อาจยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนสิทธิ หรือเอกสารสิทธิที่เจ้าหน้าที่ของรัฐอนุมัติ หรืออนุญาต หรือกระทำการใดไปโดยมิชอบด้วยกฎหมายได้อีกด้วย