ชัยนาท - “น้องจอย” เมียหลวงบุกงานแต่งสามีตำรวจมาในมาดใหม่ สวยขึ้นกว่าเดิม ขึ้นศาลสืบพยานฟ้องเมียน้อยเรียกค่าเสียหาย 3 แสน เผยหลังจากนี้จะทำทุกอย่างเพื่อลูก
จากกรณีที่ น.ส.นิภาพรรณ หรือจอย อายุ 33 ปี ถือทะเบียนสมรสบุกไปงานแต่งงานของสามีตำรวจ ยศ ส.ต.อ. กับเจ้าสาวคนใหม่ ที่บ้านหลังหนึ่งในอำเภอเมืองชัยนาท โดยมีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก และกลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ จนได้รับฉายาว่า เมียหลวงบุกงานแต่ง โดยได้มีการยื่นฟ้องร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยนาท เรียกค่าเสียหายกับเจ้าสาว จำนวน 300,000 บาท
ทั้งนี้ เมื่อค่ำวันที่ 14 มิ.ย. น.ส.นิภาพรรณ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Nipapan Puechpen ระบุว่า แจ้งให้ทุกท่านที่ติดตามเรื่องของจอยทราบนะคะ พรุ่งนี้ (15 มิ.ย.) จอยจะไปศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยนาท เวลา 09.30 นาฬิกา เพราะต้องไปขึ้นศาลที่ฟ้องเรียกค่าเสียหาย จำนวน 300,000 บาท ค่ะ #ขอรับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น หวังว่าเธอจะมา....ขอบคุณค่ะ #ทีมเมียหลวง และได้โพสต์รูปภาพของตนเองหลังจากทำศัลยกรรมมาแล้ว โดยถือทะเบียนสมรส และโพสต์ข้อความว่า “วันนี้ฉันถือทะเบียนสมรสมาใช้สิทธิตามกฎหมาย” #ฉันสวยมั้ยคะ
ล่าสุด วันนี้ (15 มิ.ย.) น.ส.นิภาพรรณ และแม่สามี พร้อมกับนายอนุสรณ์ อะสุรพงษ์ หรือทนายพัฒน์ และทีมทนายความ เดินทางไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยนาท เพื่อให้การหรือสืบพยานโจทก์ตามหมายนัดของศาล โดยในวันนี้ น.ส.นิภาพรรณ มาในลุคใหม่ที่สวยขึ้นกว่าเดิม หลังจากผ่านการทำศัลยกรรมมาแล้ว โดยเธอมาในชุดสูทสีขาว แต่งหน้าทำผมสวยงาม เดินทางมาศาลด้วยความมั่นใจ
น.ส.นิภาพรรณ เปิดเผยว่า เรื่องการฟ้องร้องคู่กรณียืนยันว่าให้เป็นไปตามกฎหมาย เรียกค่าเสียหาย 300,000 บาท ไม่ขอไกล่เกลี่ย ไม่ขอยอมความ ส่วนเรื่องสามีตั้งแต่เกิดเรื่องตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับสามี และไม่ได้ติดต่อกัน ต่างคนต่างอยู่ แต่ตนยังคงสถานะเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ตนได้พาลูกสาว 2 คน ย้ายออกจากบ้านพ่อแม่สามี กลับมาอยู่บ้านพ่อแม่ตัวเองแล้ว ขณะนี้ตนขอโฟกัสที่ลูกสาว 2 คน โดยเตือนตัวเองด้วยสโลแกนใหม่ว่า “ต้องสวย รวย แล้วปัง เดินหน้าหาเงินเลี้ยงลูก” ส่วนเรื่องความสวยหลังจากไปทำศัลยกรรมมาแล้ว ทำให้ตนมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น ในวันนี้ที่มาขึ้นศาลได้รับกำลังใจจากคนจำนวนมาก ทั้งคนในครอบครัว ทีมทนายความ และทีมเมียหลวง
นายอนุสรณ์ ทนายความเปิดเผยว่า ในวันนี้เป็นการนัดไกล่เกลี่ย หรือให้การหรือสืบพยานโจทก์ แต่ฝ่ายจำเลยไม่เดินทางมาศาล จึงดำเนินการสืบพยานโจทก์ฝ่ายเดียว โดย น.ส.นิภาพรรณ และแม่สามี ได้ขึ้นเบิกความเป็นพยาน และนำพยานหลักฐานทั้งหมดเสนอต่อศาล โดยเรียกค่าเสียหาย จำนวน 300,000 บาท ซึ่งอยู่ระหว่างรอให้ศาลพิจารณาค่าเสียหายว่าจำเลยจะต้องชดใช้จำนวนเงินเท่าไหร่ มีนัดหมายทราบผลในสัปดาห์หน้า ซึ่งเมื่อศาลกำหนดจำนวนเงินที่จำเลยต้องชดใช้แล้วจะมีหมายแจ้งไปให้จำเลยทราบ เพื่อกำหนดระยะเวลาในการชดใช้ หากจำเลยไม่ยอมชดใช้ก็จะต้องใช้บังคับคดีต่อไป