ศาลเลื่อนนัดไต่สวนมูลฟ้องคดี “ธนาธร” ฟ้อง “สนธิญาณ” หมิ่นประมาท เรียก 27.5 ล้าน ไป 11 ต.ค.นี้ เหตุโจทก์ยื่นขอเลื่อนอยู่ในสถานการณ์โควิด-19
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 813 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ คดีดำ อ.3080/2563 ที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา
กรณีวันที่ 9 พ.ย. 2563 เครือข่ายปกป้องสถาบันได้จัดชุมนุมที่ ม.รามคำแหง และจำเลยได้ปราศรัย ทำนองว่า โจทก์อยู่เบื้องหลังกลุ่มเยาวชนที่จัดชุมนุมทางการเมืองและอื่นๆ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสีย พร้อมเรียกค่าเสียหาย 27.5 ล้านบาท
โดยวันนี้ โจทก์ส่งทนายความมาดำเนินการแทน ขณะที่ นายสนธิญาณ จำเลยเดินทางมาศาลพร้อมทนายความ
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อ้างว่า ปัจจุบันมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งกรุงเทพมหานครได้มีประกาศสั่งปิดสถานที่ชั่วคราวในหลายพื้นที่ ทั้งยังได้ขอความร่วมมือให้งดการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน เพื่อลดการแพร่ระบาดของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกอบกับก่อนหน้านี้โจทก์มีความจำเป็นต้องลงพื้นที่ไปรับทราบปัญหาของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวในหลายพื้นที่ ด้วยเหตุนี้เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวจึงขออนุญาตเลื่อนคดีออกไปอีกสักนัดหนึ่ง
ศาลสอบถามจำเลยและทนายจำเลยแล้วแถลงไม่ค้าน
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ปัจจุบันมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา กระจายเป็นวงกว้าง ประกอบกับได้มีหนังสือของสำนักงานศาลยุติธรรมเรื่องแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารจัดการคดีในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งได้ประกาศให้ศาลมีดุลพินิจในการเลื่อนคดีหากพิจารณาแล้ว เห็นว่า การดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลไม่สามารถดำเนินไปได้โดยปลอดภัยแก่คู่ความทุกฝ่าย
อีกทั้งจำเลยและทนายจำเลยไม่ค้านกรณีจึงมีเหตุสมควรอนุญาตให้เลื่อนไปนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 11 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.ตามที่คู่ความทั้งสองฝ่ายมีวันว่างกัน
ด้าน นายธนุ สุขบำเพิง ทนายความนายสนธิญาณ กล่าวว่า ศาลเลื่อนนัดไปวันที่ 1 ต.ค. เนื่องจากทนายโจทก์ขอเลื่อนนัดอ้างว่าอยู่ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ส่วนที่นายธนาธรยื่นฟ้องเพราะนายสนธิญาณ ได้กล่าวกับนักศึกษาที่ม.รามคำแหง ว่า นายธนาธร อยู่เบื้องหลังม็อบกลุ่มราษฎร และมีพฤติกรรมลบหลู่สถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ พร้อมที่จะสู้คดีเพราะมีบันทึกข้อเท็จจริงทุกเหตุการณ์ และทุกคำพูดและพฤติการณ์ของนายธนาธร ไม่ว่าจะสถานที่ไหน หรือเวลาไหนทั้งสิ้น
ด้าน นายสนธิญาณ กล่าวว่า ความจริงแล้วในวันนี้ตนไม่จำเป็นต้องเดินทางมาเองก็ได้ แต่เพราะอยากเจอหน้ากับนายธนาธร
แต่ก็ผิดหวังไม่ได้เจอ ส่วนตัวแล้วไม่กังวล เพราะมีหลักฐานพร้อมพิสูจน์ข้อเท็จจริง ว่า สิ่งที่นายธนาธรทำ กำลังทำให้ประเทศเสียหาย สร้างความขัดแย้งแม้ตัวจะบอกว่าต้องการประชาธิปไตย แต่ก็ไปพาดพิงเรื่องสถาบันฯ ซึ่งถ้าหากอยากเปลี่ยนประเทศให้เป็นประชาธิปไตยโดยแท้จริงแล้ว ให้ลองทำกับบริษัทของตัวเองก่อน จากบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ เปลี่ยนมาทำให้เป็นสหกรณ์แล้วค่อยมาพูดเรื่องอื่น