ฝากขัง 2 ผู้ต้องหาปล่อยข่าวลือหมิ่นสถาบันฯ พบถ่ายรูปคู่ ส.ส.ก้าวไกล หลายภาพ “ดร.อานนท์” ตั้งคำถาม นำไปสู่การยุบพรรคได้หรือไม่
วันที่ 9 มิ.ย. 2564 ศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีที่ 2 ผู้ต้องหาปล่อยข่าวลืออัปมงคล โดยพบว่ามีการถ่ายภาพร่วมกับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประกอบด้วย นายรังสิมันต์ โรม, นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
โดย ศ.ดร.อานนท์ ระบุว่า ให้รูปเล่าเรื่อง สองคนนี้นำเข้า เผยแพร่ข่าวลือว่าในหลวงและสมเด็จพระราชินีประชวรหนัก ปอท. บุกเข้าไปจับกุมและยึดอุปกรณ์ไปตรวจได้ ฝากขังไว้แล้ว แต่มีรูปถ่ายออกมาว่าผู้ก่อเหตุสนิทสนมกับ โรม รังสิมันต์ เจี๊ยบ และ พิธา ไม่ทราบว่ามีคำตอบอะไรไหม แล้วนี่จะนำไปสู่เหตุยุบพรรคได้หรือไม่ ?
โดยก่อนหน้านี้ ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ร.ต.อ.พงศ์ปิติ ตรีนิคม พนักงานสอบสวน กก.3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ขอฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ นายอุกฤษฎ์ สันติประสิทธิ์กุล อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี ผู้ต้องหาคดีหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร จึงขออนุญาตศาลฝากขังผู้ต้องหา เนื่องจากการต้องสอบพยานเพิ่ม 4 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากรไว้ในระหว่างการสอบสวนมีกำหนด 12 วัน นับแต่วันที่ 9-20 มิ.ย. 64
โดยพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 64 เวลา 02.47 น. ผู้ต้องหาได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “John New World” ได้นำเข้าเผยแพร่หรือส่งต่อข้อความและรูปภาพในลักษณะหมิ่นสถาบันฯ จำนวน 2 โพสต์
ต่อมาวันที่ 7 มิ.ย. 64 พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ที่ 874/2564 ลงวันที่ 7 มิ.ย. 64 และขออำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายค้นที่ 428/2564 ลงวันที่ 7 มิ.ย. 2564 เพื่อเข้าตรวจค้นห้องพักย่านรามคำแหง ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 64 เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมกับพวกได้ร่วมกันนำหมายค้นเข้าตรวจสอบห้องพักดังกล่าว ขณะที่ผู้ต้องหาอยู่ภายในห้องด้วย จากนั้น พบโทรศัพท์มือถือ, สมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์, สมุดโน้ต ภายในหน้าแรกเขียนข้อความด้วยดินสอระบุข้อความ “สวัสดีครับกระผม Jonh New World .. และข้อความต่อต้านรัฐบาลรวมของกลาง 3 รายการ ขณะอยู่ในความครอบครองของผู้ต้องหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดโทรศัพท์และของกลางดังกล่าวไว้และทำการจับกุมผู้ต้องหาและแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ
เหตุเกิดที่ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาในการกระทำของผู้ต้องหานี้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (3) (4) แก้ไขเพิ่มเติมตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560
ทั้งท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และจะเป็นการยากในการติดตามตัวมาดำเนินคดีในภายหลัง
ในวันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวน กก.3 ปอท. ได้ฝากขัง นายสหรัฐ เจริญสิน อายุ 28 ปี ผู้ต้องหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่งคงแห่งราชอาณาจักรและหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์พระราชินีรัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์”
พฤติการณ์คือ ผู้ต้องหาเป็นผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ชื่อ S. J. หรือ @ tuatot7th ได้มีการโพสต์ข้อความที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหลายครั้ง ในช่วงเดือน พ.ค.- มิ.ย. ทางตำรวจจึงได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ และในวันที่ 8 มิ.ย.บุกเข้าจับกุมผู้ต้องหา
โดยพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหาความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่งคงแห่งราชอาณาจักรและหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ “ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 (ฉบับที่ 2) มาตรา 8 มาตรา 14(3) และ ป.อาญา ม.112
ซึ่งชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่าทวิตเตอร์และโพสต์ดังกล่าวข้างต้นผู้ต้องหาเป็นเจ้าของทวิตเตอร์และได้โพสต์จริง แต่เชื่อว่าข้อความภาพและคลิปที่โพสต์ไม่เป็นความผิด
โดยพนักงานสอบสวนยังต้องสอบพยานจำนวน 4 ปาก รอผลการตรวจอื่นๆ จึงขออนุญาตศาลฝากขังผู้ต้องหาไว้ในระหว่างการสอบสวนมีกำหนด 12 วัน นับแต่วันที่ 9-20 มิ.ย. 64 และท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนีจะเป็นการยากในการติดตามตัวมาดำเนินคดี และเนื่องจากพยานหลักฐานเป็นพยานหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ง่ายต่อการเข้าถึง อาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน