xs
xsm
sm
md
lg

ไล่ล่าเครือข่ายยาบ้าหนีจากปทุมธานี จนมุมที่บางสะพาน พร้อมของกลางยาบ้า 1.8 แสนเม็ด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประจวบคีรีขันธ์ - ตำรวจไล่ล่าเครือข่ายยาบ้าประจวบฯ หนีจากปทุมธานี จนมุมที่บางสะพาน พร้อมของกลางยาบ้า 1.8 แสนเม็ด พร้อมยึดของกลางรถเก๋ง รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ซีบี 650 อาร์ โทรศัพท์มือถืออีกหลายเครื่อง

วันนี้ (11 มิ.ย.) พ.ต.อ.กิตติภพ ชมพูนุช รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด (ปส.) ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งจาก พล.ต.ต. ชยุต มารยาตร์ ผบก.ก.จ.ปทุมธานี ให้สกัดจับรถเก๋งซูซูกิ รุ่นสวิฟท์ สีขาว ทะเบียน กท 146 ประจวบคีรีขันธ์ หลังสืบทราบว่า มีการลักลอบขนยาเสพติดและหลบหนีการจับกุมมุ่งหน้าผ่านถนนเพชรเกษมไปภาคใต้ โดยมีเจ้าหน้าที่ ปส.ภ.จ.ปทุมธานี ขับรถติดตามอย่างกระชั้นชิด ต่อมา พบว่ารถเป้าหมายหลบซ่อนในพื้นที่ อ.บางสะพาน จึงสั่งการ พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก.สภ.บางสะพาน พร้อมกำลังทำการตรวจสอบกระทั่งทราบว่านายฉัตริน ขอมีกลาง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/5หมู่ 5 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีพฤติการณ์ลักลอบขนยาบ้าจากพื้นที่ จ.ปทุมธานีไปภาคใต้

โดยเช่าบ้านเลขที่ 35 หมู่ที่ 4 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน เป็นแหล่งกบดานเพื่อพักยารอส่งต่อ จากนั้นจึงวางกำลังปิดล้อม พร้อมแจ้งให้นายฉัตริน ออกมามอบตัว แต่พบว่าภายในบ้านพักไม่มีความเคลื่อนไหว เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเข้าไปตรวจสอบพบนายฉัตริน จึงควบคุมตัวตรวจค้นภายในบ้านพบยาบ้า 184,000 เม็ด บรรจุถุงสีดำในกล่องพลาสติกซุกในห้องนอน จึงแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมยึดของกลางรถเก๋ง รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ซีบี 650 อาร์ โทรศัพท์มือถือหลายเครื่อง

สอบสวนนายฉัตริน สารภาพว่า ได้รับว่าจ้างขนยาบ้าจากเพื่อน ชื่อนายแฟร้งค์ ไม่ทราบนามสกุล ชาว ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน นายฟลุ๊ค ที่ ต.เกาะหลัก ให้ไปรับยาที่ จ.ปทุมธานี โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 5 หมื่นบาท จึงขับรถส่วนตัวไปรับยาเสพติดจากเครือข่ายใหญ่พื้นที่ปทุมธานี และมีนายแฟร้งค์ และนายฟลุ๊ค ขับรถนำ 2 คัน เพื่อตรวจสอบเส้นทางโดยใช้โทรศัพท์มือถือแจ้งการตั้งด่านตรวจ ส่วนตนขับรถบรรทุกยาบ้าคันสุดท้าย เมื่อเดินทางมาถึง อ.บางสะพาน ผู้ว่าจ้างได้นำยาบ้าส่วนหนึ่งไปส่งให้เอเยนต์ที่ อ.บางสะพาน ส่วนยาบ้าที่เหลือได้นำไปเก็บที่บ้านเช่า เพื่อรอจำหน่ายต่อไป

ขณะที่การสืบสวนก่อนจับกุมทราบว่า แก๊งดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯโดยใช้โทรศัพท์มือถือสั่งการเพื่อซื้อขายยาบ้า ที่ผ่านมาใช้พื้นที่ อ.เมือง เป็นแหล่งพักยา แต่หลังจากโดนกดดันหนักจึงให้เครือข่ายไปเช่าบ้านที่ อ.บางสะพาน เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นในการสืบสวนติดตามจับกุม กระทั่งเครือข่ายดังกล่าวติดต่อค้ายากับสายลับ จึงทำให้ตำรวจทราบความเคลื่อนไหว วางแผนจับกุมพร้อมขายผลจับเครือข่ายแก๊งค้ายาอีกหลายรายใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ทำธุรกิจอื่นบังหน้า

กำลังโหลดความคิดเห็น