พิษณุโลก - ผู้ว่าฯ เมืองสองแควเรียกประชุมทั้งปกครอง-ตำรวจวังทอง รวมถึง ป.ป.ส. ทหาร ตร.จี้เร่งปราบแก๊งค้ายา พร้อมรายงานผลทุกสัปดาห์ หลังชาวสวนยางทนไม่ไหวติดป้ายประจานหราชี้ทางคนค้า-คนเสพ ด้านสืบจังหวัดฯ ระดมกวาดล้างทันที
ความคืบหน้ากรณีชาวสวนยางพารา ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ติดป้ายประชดชี้ทางซื้อขายยาบ้าในสวนยาง ระบุข้อความ..ซื้อยาบ้าตรงไป อย่าเลี้ยว ขอเตือน ซื้อยาบ้าเลี้ยวซ้าย อย่ามาเสือกจอดแถวนี้.. นอกจากนี้มีการถ่ายภาพเผยแพร่ในโซเชียลฯ ทำนองว่า "สุดจะทน ยาบ้าระบาดหนัก แจ้งเจ้าหน้าที่ไร้วี่แวว ติดป้ายเขตห้ามเข้า แจ้งตำรวจก็แล้ว ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ และจังหวัด ก็เงียบ ยื่นหนังสือไปยัง ป.ป.ส.ภาค 6 ก็ไม่คืบหน้า จึงตัดสินใจทำป้ายให้รู้ว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ห้ามคนอื่นเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
เนื่องจากรอบๆ บริเวณพื้นที่ดังกล่าวรายล้อมไปด้วยคนขายยาบ้า คนเสพยาบ้า ใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นทางตัดผ่าน ตอนกลางคืน วิ่งกันทั้งคืน เสียงดังตลอด แจ้งเจ้าหน้าที่ ก็ไร้วี่แวว ว่าจะทำอะไรได้ คนขาย คนเสพยา 4-5 หมู่บ้านชอบมาซื้อ-ขายยากันแถวตรงนี้ ไม่มีใครช่วยได้ จำต้องพึ่งตนเอง"
กระทั่ง 5 มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งโสภา ท้องที่เกิดเหตุ เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา และวานนี้ (7 มิ.ย.) นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก
โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่ ประกอบด้วย นายอำเภอวังทอง-ผกก.สภ.แก่งโสภา เจ้าของท้องที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน.จังหวัด ตำรวจ ปส.และ ป.ป.ส.ภาค 6 รวมทั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัด และปลัดจังหวัด เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงระดับอำเภอ-จังหวัด ตลอดจนหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายมารับทราบปัญหา และแนวทางแก้ไขการดำเนินการให้มีความรวดเร็ว พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกกล่าวว่า กรณีติดป้ายชี้ทางคนค้าคนเสพยาบ้าดังกล่าวนั้น จากการสอบถามว่ามีการร้องเรียนจริงตามที่อ้างหรือไม่นั้น พบว่ามีการร้องเรียนจริง ทั้งศูนย์ดำรงธรรม ป.ป.ส.ภาค 6 รวมถึงตำรวจ ปรากฏว่าจริงทั้งหมด ตนได้ดูหลักฐานแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งคนร้องให้รับทราบ ซึ่งเป็นข้อบกพร่องของเราที่ทำแล้วไม่ได้รายงาน ตนจึงเน้นให้ไปบอกกับคนร้องรับทราบว่าเรากำลังดำเนินการอยู่ ดีกว่าเงียบไปเลย
ซึ่งตนได้สั่งการให้ทางอำเภอ และ สภ.แก่งโสภาทำแผนให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ รายงานผลการปฏิบัติงานให้ทราบทุกสัปดาห์ว่ามีแผนอย่างไร ปฏิบัติอย่างไร และได้ผลอย่างไร เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่พี่น้องประชาชน ชุดสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประชาชนก็ต้องลงพื้นที่ให้ถี่มากขึ้น เพราะถือว่าเป็นพื้นที่เป้าหมาย แต่อย่าทิ้งพื้นที่เดิมเป้าหมายอื่นที่ดำเนินการอยู่
นายรณชัยกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ป.ป.ส. และตำรวจ นำข้อมูลร้องเรียนยาเสพติดมาวิเคราะห์กันทุกอาทิตย์ เพื่อจะทราบรายละเอียดทั้งผู้ค้าใหม่หรือคนค้าเก่า ตั้งทีมวิเคราะห์ยาเสพติดโดยเฉพาะด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ธีรเดช แจ่มแจ้ง ผกก.สืบสวนฯ และทีมสืบสวนภูธรจังหวัดพิษณุโลก พร้อมชุด นปพ.ได้ระดมกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่เป้าหมายที่มีการร้องเรียน ห้วง 8-17 ก.พ. 64 สามารถจับกุม นายพินิจ หรือหน่อย บุญธรรม อายุ 29 ปี ข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ของกลางยาบ้า 4,000 เม็ด อาวุธปืนแก็ป 3 กระบอก กระสุนลูกซอง 3 นัด ตามคดีอาญา ที่ 43/64 สภ.แก่งโสภา นอกจากนี้ยังจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดพร้อมของกลางได้อีกหลายราย
