เชียงราย - โครงการหลวงแม่สลองต้องทิ้งเชอร์รีดอยไปแล้วนับ 100 ตัน หลังโรงงานปิดหนีโควิดระบาดต้นฤดู..แต่ได้พลังโซเชียลฯ รุ่นพี่-รุ่นน้องแชร์ต่อช่วยขายจนรอดวิกฤต คนแห่สั่งซื้อจนแพกส่งไปรษณีย์-เคอร์รี่กันแทบไม่ทัน
ขณะนี้เจ้าหน้าที่โครงการหลวงแม่สลอง พร้อมชาวบ้านสันติคีรี หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ต้องเร่งช่วยกันบรรจุหีบห่อผลผลิตลูกพลัมจูหลีสด หรือเชอร์รีดอย เพื่อส่งไปรษณีย์และเคอร์รี่ให้ลูกค้าที่สั่งซื้อเข้ามาผ่านทางโทรศัพท์และโซเชียลมีเดียกันมือเป็นระวิงทุกวัน
น.ส.พิณทิพย์ แดงใฝ เจ้าหน้าที่โครงการและชาวบ้าน ระบุว่า ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นต้นฤดูผลิตของเชอร์รีดอย เราต้องทิ้งผลผลิตไปแล้วร่วม 90-100 ตัน หลังจากที่ผลเชอร์รีดอยออก กลับส่งไปโรงงานแปรรูปไม่ได้ เนื่องจากโรงงานหยุดดำเนินการอันเป็นผลมาจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ช่วงต้นฤดูจึงทิ้งผลผลิตในช่วงนั้นไป เพราะพอเชอร์รีดอยสุกแล้วจะเก็บไว้ได้นานเพียง 7-10 วัน
หลังจากนั้นจึงตัดสินใจส่งข้อความขอความช่วยเหลือเรื่องการระบายผลผลิตในโครงการฯ ไปยังพี่น้องเพื่อนฝูงที่เคยเรียนหนังสือมาด้วยกัน ต่อมาทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องได้ส่งข้อความต่อๆ กันไปในโซเชียลฯ อีกหลายกลุ่ม ปรากฏว่ามีผู้สนใจสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากจนรับโทรศัพท์แทบไม่ทัน ซึ่งตนต้องขอขอบคุณอย่างมาก และจากนี้ก็จะเร่งจัดส่งให้ทัน
ส่วนผู้ที่ต้องการติดต่อกับเกษตรกรโดยตรง สามารถประสานผ่านทางกลุ่มงานตลาดและสถาบันเกษตรกรของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ชื่อ วรุมดี ภาคสินธ์ หมายเลขโทร.ติดต่อ 08-1884-5780 และ ไฉไล กรองทอง หมายเลขโทรติดต่อ 08-461-6255
สำหรับโครงการหลวงแม่สลองนี้ ทางสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนงานของมูลนิธิโครงการหลวง และขยายผลสำเร็จของโครงการหลวงไปยังพื้นที่สูงอื่น ปัจจุบันมีพื้นที่ดำเนินโครงการบนดอยแม่สลองประมาณ 500 ไร่ และปลูกเชอร์รีดอยเพื่อให้เป็นร่มใบแก่ต้นกาแฟ ที่ผ่านมาได้ผลผลิตปีละประมาณ 500 ตัน ราคาผลผลิตกิโลกรัมละ 6-8 บาท ซึ่งปีนี้สภาพอากาศและฝนเอื้ออำนวยทำให้ได้ผลผลิตจำนวนมาก
