แม่ฮ่องสอน - ผู้ว่าฯ มั่นใจพม่ารบกะเหรี่ยงเริ่มคลี่คลาย คาดเปิดด่านฯ ได้เร็วๆ นี้..ขณะที่หัวหน้าสำนักงาน UNHCR หารือแนวทางช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยงกว่า 2,000 ชีวิต หนีภัยสู้รบจากเมียนมาข้ามสาละวินเข้าไทย
วันนี้ (6 พ.ค.) นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้การต้อนรับ นายคัตสึโนริ โคอิเกะ หัวหน้าสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน (The United Nations High Commissioner for Refugees : UNHCR) ที่เดินทางเข้าประสานแนวทางเตรียมความพร้อมการดูแลผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา
โดยมีผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมประชุมหารือการเตรียมความพร้อมการดูแลผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว หรือพื้นที่แรกรับ ทั้งด้านความปลอดภัยในชีวิต และด้านสาธารณสุขเบื้องต้น รวมทั้งอาหาร และยารักษาโรค
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หัวหน้าสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยฯ มาหารือแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา เนื่องจากมีความห่วงใยบรรดาชาวกะเหรี่ยงที่อพยพหนีภัยสงครามเข้ามาในฝั่งประเทศไทย ซึ่งมีอยู่ราว 2 พันกว่าคน เพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ทางจังหวัดได้ชี้แจงแนวทางการดูแลผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ตามหลักเกณฑ์ โดยอยู่ในความดูแลของกระทรวงกลาโหม มีกองกำลังนเรศวร กรมทหารพรานที่ 3 และกำลัง ตชด.ดูแล และหากสถานการณ์มีความรุนแรง ทางจังหวัดก็ได้จัดเตรียมพื้นที่พักรอห่างจากชายแดน 1-2 กิโลเมตร ซึ่งจะมีกลุ่มองค์กรภาคเอกชน NGO และจังหวัดเข้าไปดูแลช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์เบาลง ชาวบ้านแม่สามแลบก็ได้เดินทางกลับบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย แล้ว ส่วนการเปิดด่านการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ด้านบ้านแม่สามแลบ ทางจังหวัดจะได้มีการประชุม คณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนฯ ในการพิจารณาผ่อนคลายในการเปิดจุดผ่อนปรนช่องทางบ้านแม่สามแลบต่อไป หลังจากที่สั่งปิดระหว่างเกิดปัญหาสู้รบในฝั่งประเทศเมียนมา
ทั้งนี้ จากการสู้รบระหว่างกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNU กับทหารเมียนมาตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาด้าน อ.สบเมย-อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้ทำให้ชาวกะเหรี่ยงในเมียนมาเดินทางข้ามลำน้ำสาละวินมายังฝั่งประเทศไทยเพื่อหลบหนีภัยจากการสู้รบ โดยทางจังหวัดได้จัดให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวบริเวณห้วยอีนวล ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง และพื้นที่ใกล้เคียง 3 แห่ง รวมทั้งสิ้น 2,159 คน คือ บริเวณห้วยอีนวล 320 คน บริเวณห้วยโกเฮ 72 คน และบริเวณห้วยอูมปะ 1,767 คน