แม่ฮ่องสอน - สถานการณ์ฝั่งเมียนมาตรงข้ามแม่ฮ่องสอนยังไม่สงบ..พบพม่าบินโจมตีพื้นที่ตรงข้ามท่าตาฝั่ง-แม่สามแลบ ขณะที่ชาวบ้านฝั่งไทยผวา 2 ฝ่ายรบรุนแรง แว่วเสียงเครื่องบินทีไรหลบภัยกันวุ่น ต้องเปลี่ยนเวรเฝ้าสังเกตการณ์ริมสาละวินต่อเนื่อง
วันนี้ (28 เม.ย. 64) หน่วยงานความมั่นคงของไทยด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอนแจ้งว่า สถานการณ์สู้รบในฝั่งประเทศเมียนมา ริมฝั่งลำน้ำสาละวิน ตรงข้ามชายแดนแม่สามแลบ-แม่สะเรียง ยังไม่สงบ ล่าสุดมีอากาศยานทหารเมียนมาจำนวน 2 ลำโจมตีทางอากาศบริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ฐานด๊าก-วิน กองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 340 ของทหารเมียนมา ด้านตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย และยังได้ยินเสียงปืนเป็นระยะ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานการสูญเสียของทั้งสองฝ่าย โดยเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ประจำอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวยังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ทุกขณะ และยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ขณะที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีคำสั่งปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านแม่สามแลบ และงดการเดินเรือในลำน้ำสาละวินตั้งแต่วันนี้ (28 เม.ย. 64) เป็นต้นไป และห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ด้านบ้านแม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย เช้าวันนี้อยู่ภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงัด หลังกองกำลัง KNU และ KNLA เปิดฉากโจมตีฐานทหารพม่าที่อยู่ริมน้ำสาละวินฝั่งตรงข้ามหมู่บ้าน เมื่อเช้ามืดวานนี้ (27 เม.ย.) ทำให้หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 36 แม่สะเรียง ต้องทำการเคลื่อนย้ายชาวบ้านบางส่วนออกไปอยู่ในโรงเรียนบ้านห้วยกองก้าด ห่างจากพื้นที่เกิดเหตุเข้าไปราว 4 กิโลเมตร
แต่ยังคงมีชาวบ้านบางส่วนหรือชายฉกรรจ์ที่คอยดูแลทรัพย์สิน และคอยผลัดเปลี่ยนกันไปสังเกตการณ์ตลอดแนวลำน้ำสาละวินหรือในพื้นที่การปะทะอยู่ตลอดเวลาเพื่อแจ้งเตือนภัยกันได้ทัน เนื่องจากพื้นที่ปะทะอยู่ติดกับแนวชายแดนไทยห่างจากหมู่บ้านไม่ถึง 400 เมตร ทำให้ชาวบ้านยังคงกังวลว่าจะเกิดการสู้รบรุนแรงและทหารพม่าจะปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหนักขึ้น โดยช่วงก่อนค่ำวานนี้มีเสียงเครื่องบินแว่วมาทำให้ทุกคนต้องวิ่งหาที่หลบภัย บางส่วนก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากพื้นที่ทันที นอกจากนี้ ยังมีบางครอบครัวรีบขนของขึ้นรถยนต์ออกไปอาศัยอยู่กับญาติที่ในตัวเมืองแม่สะเรียงชั่วคราวแล้ว
ส่วนผลการปะทะของทั้งสองฝ่ายเช้ามืดวานนี้ (27 เม.ย.) มีรายงานว่าเกิดการสูญเสียด้วยกันทั้งสองฝ่าย โดย KNU ใช้กำลังโอบล้อมโจมตีเกือบ 100 นาย มีทหารเสียชีวิตไป 3 นาย ส่วนกำลังพลของทหารเมียนมา ประจำฐานแลซอท่าที่มีอยู่ราว 47 นาย มีเสียชีวิตใกล้กับฐาน 1 นาย และมีได้รับบาดเจ็บหลบหนีขึ้นไปยังฐานฝั่งตรงข้ามกับบ้านท่าตาฝั่งของไทยอีกไม่น้อย