แม่ฮ่องสอน - เผย KNU ผนึก KNLA ถล่มฐานทหารพม่าตรงข้ามแม่สามแลบ-แม่สะเรียง 2 จุดใหญ่ ทัพเมียนมาส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดตอบโต้ คนไทยโดนลูกหลง 1 ต้องอพยพชาวแม่สามแลบหลบภัยกว่า 500 คน ผู้ว่าฯ สั่งปิดจุดผ่อนปรน-งดล่องเรือสาละวินตั้งแต่พรุ่งนี้
วันนี้ (27 เม.ย.) นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะประธานศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมเจ้าหน้าที่ได้แถลงข่าวกรณีกองกำลัง KNU สนธิกำลังร่วมกันกับกองพัน KNLA เข้าโจมตีฐานซอแลท่า ของทหารเมียนมา บริเวณด้านตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อ 05.00 น.เศษที่ผ่านมา
กระทั่งเวลาประมาณ 09.00 น. หลังจากกองกำลัง KNU โจมตีฐานซอแลท่าสำเร็จก็ได้เคลื่อนย้ายกำลังติดตามทหารเมียนมาที่หนีไปฐานฯ อูซูท่า ด้านตรงข้ามบ้านแม่แวน (หมู่บ้านบริวารบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง) และเกิดการปะทะกันขึ้นอีกระลอก
ต่อมาเวลาประมาณ 12.30 น. พบเครื่องบินเมียนมาไม่ทราบแบบได้ปฏิบัติการเข้าโจมตีทิ้งระเบิดบริเวณบ้านวาเดอ อ.บือโซะ จ.ผาปูน และฐานฯ ดาช่วย ตรงข้ามอุทยานแห่งชาติสาละวินท่าตาฝั่งด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กองกำลังนเรศวร โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 สามารถควบคุมสถานการณ์บริเวณชายแดนฝั่งไทยได้
สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน จากเหตุการณ์กองกำลัง KNU เข้าโจมตีฐานฯ ซอแลท่าของทหารเมียนมา ทำให้ชาวบ้านแม่สามแลบได้รับผลกระทบ 1 ราย คือ นางเคมี ผู้ถือบัตรบุคคลผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน อาศัยบ้านเลขที่ 0/84 ม.0 ต.แม่สามแลบ ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนปืนเล็ก 1 นัด ฝังเหนือหัวเข่าด้านซ้าย ปัจจุบันได้เดินทางเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง ขณะนี้ผู้ป่วยอาการปลอดภัยแล้ว และจะส่งตัวไปผ่าตัดเอากระสุนออก ณ รพ.ศรีสังวาลย์ต่อไป
ส่วนกรณีกองกำลัง KNU เข้าโจมตีฐานฯ ซอแลท่า ทำให้ชาวบ้านแม่สามแลบต้องอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยบ้านห้วยกองก๊ด ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 450 คน โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้จัดกำลังร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอสบเมย สถานีตำรวจภูธรสบเมย และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสบเมย ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวก
ล่าสุดจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มีคำสั่งให้ปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านแม่สามแลบ และงดการเดินเรือในลำน้ำสาละวินตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (28 เม.ย. 64) เป็นต้นไป และห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
กรณีการสู้รบมีผลกระทบต่อราษฎรไทย ได้มีการจัดทำแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังเพื่ออพยพราษฎรไทยไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยไว้แล้ว และหากมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาหลบหนีข้ามฝั่งมายังฝั่งไทย จะจัดให้พักรอในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว (พื้นที่แรกรับ) ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของทางทหารบริเวณชายแดน โดยมีการคัดกรอง COVID-19 และแยกพื้นที่กรณีมีผู้ติดเชื้อตามมาตรการสาธารณสุขต่อไป ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับไว้ครบถ้วนแล้วตามหลักมนุษยธรรม
และหากการสู้รบมีความรุนแรงยืดเยื้อ ก็มีแผนดำเนินการเคลื่อนย้ายผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา เข้าไปพักรอในพื้นที่พักรอที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยจะดูแลตามหลักมนุษยธรรม (อาหาร, น้ำ, ยารักษาโรค) โดยมีหน่วยงานภาครัฐองค์กรการกุศลเอกชนที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนช่วยเหลือ
ขณะนี้จังหวัดฯ ยังไม่มีการประกาศรับบริจาคใดๆ ทั้งสิ้น การช่วยเหลือราษฎรไทยที่ได้รับผลกระทบเบื้องต้นอยู่ในความดูแลช่วยเหลือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานภาครัฐ หากเกินขีดความสามารถจะได้ประกาศขอรับบริจาคต่อไป และหากมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาหลบหนีข้ามฝั่งมายังฝั่งไทย ในเบื้องต้นจะกำกับดูแล โดยฝ้ายทหารหากเกินขีดความสามารถจะประสานจังหวัดแม่ฮ่องสอนเพื่อประกาศขอรับบริจาคช่วยเหลือต่อไป
