ชัยนาท - ชาวนาชัยนาทขี่ จยย.ตามหารถอีแต๋นที่ถูกขโมย โชคดีเจอคนร้ายขับอีแต๋นผ่านหน้ามากลางถนน รีบเร่งเครื่องไล่ตาม พร้อมโทร.แจ้งตำรวจช่วยสกัดจับไว้ได้ทัน
วันนี้ (4 พ.ค.) นายวิรัตน์ อินทร์คุ้ม อายุ 56 ปี ชาวนาตำบลธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท ว่า รถอีแต๋นของตน ยี่ห้อคูโบต้า ได้ถูกคนร้ายลักไปจากทุ่งนาบริเวณ ม.10 ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ขณะจอดติดเครื่องสูบน้ำไว้ ตำรวจจึงได้วิทยุแจ้งให้ตำรวจทุกพื้นที่ออกตรวจสอบและติดตามหาคนร้าย ต่อมา เวลา 15.00 น. ตำรวจ 191 ได้รับโทรศัพท์แจ้งจากนายวิรัตน์ ว่า เห็นคนร้ายขับรถอีแต๋นของตนเองอยู่บนถนนพหลโยธิน อ.มโนรมย์ จึงแจ้งตำรวจ สภ.มโนรมย์ เข้าสกัดจับตัวคนร้ายไว้ได้ บริเวณริมถนนพหลโยธิน ห่างจากแยกคุ้งสำเภา ไปประมาณ 2 กิโลเมตร
นายวิรัตน์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังจากเข้าแจ้งความต่อตำรวจแล้ว ก็ตระเวนขี่จักรยานยนต์ไปตามถนนคันคลอง และคันนา เพื่อตามหารถอีแต๋นของตนเองตลอดทั้งวัน จนกระทั่งช่วงบ่าย 3 ได้เห็นคนร้ายขับรถอีแต๋นของตน มีจักรยานยนต์อยู่บนพ่วงท้าย ผ่านหน้าบริเวณแยกไฟแดงดักคะนนท์ ถนนพหลโยธิน ตนจำรถอีแต๋นของตนได้จึงรีบขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามคนร้ายไป และรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้ช่วยสกัดจับ
จนไล่ตามคนร้ายไปถึงแยกคุ้งสำเภา อ.มโนรมย์ ตำรวจได้ตามสกัดจับไว้ได้ ตนรู้สึกดีใจมากไม่คิดว่าจะได้รถคืน ตอนรถหายได้บนบานกับหลวงพ่อธรรมจักร พระคู่บ้านคู่เมืองชัยนาท ว่า ขอให้ได้รถคืนจะถวายพวงมาลัย 5 พวง ไม่คิดว่าจะได้เห็นคนร้ายขับรถอีแต๋นผ่านไปต่อหน้าต่อตา เพราะหากรถหายไปไม่รู้จะหาเงินซื้อใหม่ได้หรือเปล่า เพราะช่วงนี้เงินหายาก และเป็นรถที่รักใช้มาเกือบ 20 ปีแล้ว
ส่วนคนร้ายทราบชื่อคือ นายณรงฤทธ์ ภู่ฉัตร อายุ 26 ปี เป็นชาวจังหวัดพิจิตร จากการตรวจค้นตัวพบอุปกรณ์เสพยาในกระเป๋าคาดเอว เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่าเคยโดนจับข้อหาเสพยา
เบื้องต้น นายณรงค์ฤทธิ์ ให้การรับสารภาพว่าขโมยรถอีแต๋นมาจริง โดยอ้างว่าเดินทางมาเยี่ยมพี่สาวที่ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ได้ 2 วันแล้ว กำลังจะกลับบ้านที่ จ.พิจิตร ขณะขี่รถจักรยานยนต์เพื่อจะกลับพิจิตร รถเกิดยางแตกและน้ำมันหมด จึงจอดรถทิ้งไว้ริมถนนที่ อ.สรรคบุรี แล้วออกเดินเท้าไปเรื่อยๆ จนมาพบรถอีแต๋นจอดไว้กลางทุ่งนา อ.เมืองชัยนาท จึงขับอีแต๋นกลับไปบรรทุกรถจักรยานยนต์ของตนที่จอดทิ้งไว้ แล้วจะขับรถอีแต๋นกลับไปจังหวัดพิจิตร แต่ถูกตำรวจจับได้เสียก่อน
เบื้องต้น ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ทุ่งนาของผู้เสียหาย แล้วนำตัวกลับไปสอบสวนที่ สภ.เมืองชัยนาท เพิ่มเติม เพราะตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อตามคำให้การ เนื่องจากจุดที่จอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ กับจุดที่ขโมยรถอีแต๋นอยู่ห่างกันเกือบ 30 กิโลเมตร