แม่ฮ่องสอน - สถานการณ์สู้รบริมฝั่งสาละวินยังไม่สงบ..พม่าปะทะ KNU ต่อเนื่อง ล่าสุด ตี 4 วันนี้ยังมีทิ้งบอมบ์ ทำชาวกะเหรี่ยงอพยพหนีตายเข้าไทยเพิ่ม ขณะที่แม่สามแลบแทบร้างผู้คน
รายงานข่าวจากชายแดนแม่ฮ่องสอน แจ้งว่า สถานการณ์การปะทะกันของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารของรัฐบาลเมียนมา ชายแดนด้านตรงข้ามกับบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย และบ้านท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ (1 พ.ค. 64)
หลังจากกำลังพลกองกำลัง KNU ได้นำกำลังขึ้นไปปักธงชาติของกะเหรี่ยงที่ฐานแลซอท่า ด้านตรงข้ามกับบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย และเคลียร์พื้นที่ให้เป็นสัญลักษณ์ ว่า เป็นดินแดนของ KNU แล้วก็ต้องรีบกลับไปยังฐานที่ตั้ง ฝั่งตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง ทันที
ต่อมาก็มีรายงานการปะทะกันของทั้ง 2 ฝ่าย ด้านตรงข้ามกับบ้านท่าตาฝั่งของไทย ที่อยู่ขึ้นไปทางทิศเหนือตามแม่น้ำสาละวินขึ้นไปอีกราว 10 กิโลเมตร โดยทางทหารเมียนมาพยายามปฏิบัติการทางอากาศ ส่งทั้งเครื่องบินโจมตีและเฮลิคอปเตอร์ บินเข้าโจมตีทิ้งระเบิดเป็นหลัก ซึ่งจนถึง 04.00 น.เศษที่ผ่านมา (1 พ.ค.) เมียนมาก็ยังคงบินทิ้งบอมบ์อยู่ เนื่องจากที่ตั้งของทหารเมียนมาอยู่ในพื้นที่โอบล้อมด้วยฐานกะเหรี่ยง KNU ถึง 2 ฐาน ส่วนกำลังกะเหรี่ยงก็ได้ตอบโต้ทางภาคพื้นดิน เสียงของการปะทะยังคงได้ยินเขามาถึงฝั่งไทย
การสู้รบที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวกะเหรี่ยงในฝั่งเมียนมาต้องหนีภัยเข้ามายังฝั่งไทยอยู่ตลอดเวลาเกือบ 3,000 คนแล้ว ซึ่งทางการไทยได้ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม-จัดพื้นที่แรกรับในพื้นที่ติดแนวชายแดนไว้ทั้ง 4 แห่ง คือ ที่พื้นที่ปลอดภัยห้วยอีนวล ห้วยโกแฮ ห้วยอุมปะ และห้วยออเลาะ เขตบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง
ขณะเดียวกัน สถานการณ์สู้รบที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนเมียนมา ตลอดห้วงเวลาตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน เป็นต้นมา ทำให้บ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย แทบร้างผู้คน ร้านค้าและบ้านเรือนต้องปิดตัวเงียบ ชาวบ้านบางส่วนก็ไปรวมตัวกันอยู่ที่โบสถ์-โรงเรียนบ้านห้วยกองก้าด ที่อยู่ห่างจากแนวชายแดนราว 5 กิโลเมตร โดยมีกรมทหารพรานที่ 36 และทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 กองบัญชาการทหารพัฒนาและฝ่ายปกครอง ให้การดูแลอยู่
