หนองคาย - พ่อเมืองหนองคายใช้ยาแรงประกาศลั่น ชาวหนองคายต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน ไม่สวมเจอปรับไม่เกิน 20,000 บาท ทั้งอาจเจอคุกด้วย ด้านยอดผู้ป่วยยังพบต่อเนื่อง ยอดสะสมแล้ว 24 ราย มีเด็กวัย 1 ขวบติดจากพ่อด้วย
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่ห้องประชุมสวัสดิ์ สัมพาหะ สำนักงานสาธารณสุข จ.หนองคาย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายแพทย์ ชัชวาลย์ ฤทธิ์ฐิติ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย นำคณะแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.หนองคาย โดยล่าสุดมีการตรวจพบผู้ป่วยต่อเนื่อง ผลตรวจยืนยันแล้วจำนวน 7 ราย นับเป็นรายที่ 18-24 ของจังหวัดหนองคาย
ในรายที่ 18-21 อยู่ในพื้นที่หมู่ 5 ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย เป็นผู้ป่วยที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 17 ที่ตรวจพบก่อนหน้านี้ โดยเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน ได้รับเชื้อจากญาติที่มาจากพื้นที่เสี่ยงจากต่างจังหวัดช่วงเทศกาลสงกรานต์ และทุกคนมีอาการระคายคอ และไอ ส่วนรายที่ 22 เป็นเด็กชายวัย 1 ขวบ 6 เดือน รายที่ 23 เป็นเด็กชายวัย 5 ขวบ ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน อยู่ในพื้นที่หมู่ 16 ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย ได้รับเชื้อจากพ่อซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 6 ของจังหวัดหนองคาย ประวัติเคยเดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่
รายที่ 24 เป็นหญิง อายุ 29 ปี อาชีพค้าขาย อยู่ที่ อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับสามี ซึ่งเป็นผู้ป่วยยืนยันจาก จ.ขอนแก่น เดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์ มีการรับประทานหมูกระทะกับญาติและเพื่อนรวม 15 คน เริ่มมีอาการเจ็บคอ ในวันที่ 20 เม.ย.ตรวจพบเชื้อโควิด-19 รักษาตัวที่โรงพยาบาลโพธิ์ตาก
นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ยังคงพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด เป็นสมาชิกในครอบครัวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า ซึ่งทำให้มาตรการป้องกันและควบคุมต้องเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคายจึงออกข้อกำหนดการปฏิบัติเพื่อควบคุมป้องกันและสกัดกั้นการติดและแพร่เชื้อโรค ขอให้ประชาชนทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี
เมื่อจำเป็นต้องออกจากเคหสถานหรือสถานที่ทำงานเพื่อติดต่อธุระหรือกระทำการอื่นใด รวมทั้งเมื่อมีเหตุอันควรต้องสวมใส่ เช่น เมื่อต้องปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ทำงาน อยู่ในสถานที่สุ่มเสี่ยงจะแพร่หรือได้รับเชื้อโรค การอยู่ร่วมกันกับคนหมู่มาก เป็นต้น ซึ่งข้อกำหนดนี้ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติราชการทางปกครองคู่กรณีไม่อาจใช้สิทธิโต้แย้งประกาศนี้ได้
ดังนั้น หากมีผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ไม่สวมหน้ากากอนามัยอาจมีความผิดตามมาตรา 51 พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ