อุดรธานี - ระวังไว้! ไม่สวมหน้ากากอนามัยเจอโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท คณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดอุดรธานีเตรียมเสนอให้มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.สวมหน้ากากอนามัยเพื่อควบคุมการแพร่เชื้อให้เข้มงวดขึ้น ด้านอาการ ผอ.รพ.อุดรฯ ที่ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในเกณฑ์ดี
วันนี้ (21 เม.ย. 64) ที่ชั้น 1 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี จังหวัดอุดรธานีได้แถลงข่าวประจำวันสถานการณ์โรคระบาดไว้รัสโควิด-19 โดยมีสื่อมวลชนทุกแขนงเข้ารับฟัง โดยนายแพทย์ ทวีรัชต์ ศรีกุลวงศ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า สถานการณ์ covid-19 ระลอกใหม่ของจังหวัดอุดรธานีล่าสุดมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 25 ราย
มีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 221 ราย ผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 5 ราย อยู่ระหว่างการรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัด 216 ราย สำหรับมาตรการป้องกันโรคฯ ของจังหวัดยังคงมาตรการเดิมตามที่เราได้แจ้งไว้
นายแพทย์ สุมน สุนทรวิวัฒน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลอุดรธานี กล่าวว่า ตอนนี้โรงพยาบาลอุดรธานีให้การรักษาผู้ป่วยจำนวนมาก มีการส่งผู้ป่วยที่มีอาการคงที่ไปยังโรงพยาบาลสนาม ซึ่งเป็นหอพักของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี สามพร้าว โดยผู้ป่วยทุกรายสมัครใจไปรับการรักษาต่อ โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ 1 ห้องสามารถพักได้ 2 ท่าน และรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 600 คน
นอกจากนี้ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่มีความเสี่ยงสูงไปกักตัวสังเกตอาการอีกประมาณ 60 คน ที่โรงพยาบาลสนาม โรงแรมวีธารา สำหรับอาการของท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุดรธานีมีอาการเล็กน้อย ปลอดภัยดี แพทย์ได้ให้ยาต้านไวรัส ซึ่งท่านผู้อำนวยการก็ฝากขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ทุกคนมอบให้มา
“ขอฝากไปถึงผู้ที่จะเดินทางมาโรงพยาบาล ผู้ป่วยที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนให้รักษาตัวเองที่บ้าน สำหรับผู้ป่วยที่ต้องมารับยาที่โรงพยาบาลอุดรธานีประจำ เราได้มีการจัดส่งให้ทางไปรษณีย์เพื่ออำนวยความสะดวกและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดต่อ”
นายแพทย์ ทวีรัชต์ตอบข้อซักถามกรณีมาตรการบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้านว่า ขณะนี้ทางกรรมการโรคติดต่อกำลังจะเสนอประเด็นที่ว่าให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัยเมื่อเข้าในพื้นที่ที่มีประชาชนหนาแน่นมากๆ เช่น ตลาดสด ห้างสรรพสินค้าหรือที่สาธารณะ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา
อย่างไรก็ดี หากมาตรการนี้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบ “ประชาชนผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวต้องระวางโทษตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ คือปรับไม่เกิน 20,000 บาท”