ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผ่านทางไหนช่วยที! ครอบครัวควาญช้างพ่ายพิษโควิด-19 นำช้าง 5 เชือกเดินเท้าจากพัทยา มุ่งกลับสุรินทร์ เผยไม่มีเงินเดือนตั้งแต่ต้นปี 63 ทำไม่มีแม้แต่เงินจ้างรถนำช้างกลับ คาดใช้เวลา 2 สัปดาห์ถึงบ้านเกิด
วันนี้ (6 เม.ย.) ครอบครัวควาญช้างนับ 10 ชีวิตใน ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้พากันขนข้าวของขึ้นรถยนต์ส่วนตัว พร้อมนำช้างจำนวน 5 เชือก เดินทางออกจากฟาร์มช้างขนาดใหญ่กลับบ้านเกิดใน จ.สุรินทร์ หลังต้องตกงานจากพิษโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางกลับภูมิลำเนาของกลุ่มควาญช้างในครั้งนี้จะใช้เส้นทางสาย 331 มุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน โดยแบ่งเป็นการเดินเท้าโดยควาญช้างที่จะต้องนำช้าง 5 เชือก ที่มีทั้งช้างพัง 1 เชือก และช้างพลาย จำนวน 4 เชือกเดินเท้ากลับบ้านเกิด
และได้มีการนำหญ้าจำนวนหนึ่งเป็นเสบียงสำหรับให้ช้างกินประทังชีวิตระหว่งการเดินทาง และจะใช้รถยนต์กระบะ 2 คันที่บรรทุกข้าวของขับประกบหน้าหลังเพื่อป้องกันอันตราย
น.ส.นภาลัย หมายงาม อายุ 26 ปี กล่าวว่าตนเองและเครือญาติรวม 5 ครอบครัวได้พากันเดินทางมาจาก จ.สุรินทร์ เพื่อทำงานที่ฟาร์มช้างแห่งหนึ่งใน ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง นานกว่า 5 ปีแล้ว และได้นำช้างจำนวน 5 เชือก มารับจ้างนำนักท่องเที่ยวเดินเที่ยวชมธรรมชาติ ซึ่งก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะได้รับเงินค่าจ้างช้างพร้อมควาญในอัตราเชือกละ 15,000 บาทต่อเดือน จนสามารถมีเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวได้เป็นอย่างดี
แต่หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 ลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนหายไปหมด จนทำให้ทางฟาร์มขาดรายได้และประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก ส่งผลกระทบต่อควาญและช้างที่ต้องถูกงดจ่ายเงินเดือนตั้งแต่เดือน ม.ค.2563 หรือประมาณปีเศษ
"จนถึงวันนี้ทุกคนในครอบครัวไม่สามารถอยู่ต่อไปได้เนื่องจากไม่มีเงินใช้จ่ายจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา โดยได้ใช้เวลาในช่วงเช้าพากันนำช้างออกเดินจากเส้นทางริมขอบอ่างเก็บน้ำมาบประชัน เนื่องจากสภาพอากาศไม่ร้อน ส่วนที่เลือกพาช้างเดินเท้ากลับบ้านเพราะไม่มีเงินจ้างรถบรรทุก ที่สำคัญตลอดทางเดินกลับช้างยังแวะหาหญ้ากินประทังชีวิตได้"
โดยคาดว่าการเดินเท้ากลับบ้านของช้างทั้ง 5 เชือก จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์เดินทางกว่า 500 กิโลเมตร เพื่อให้ถึงบ้านใน อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ และทุกคนในครอบครัวจะใช้วิธีแวะพักค้างแรมตามจุดต่างๆ จนกว่าจะถึงบ้านเกิด
น.ส.นภาลัย ยังเผยอีกว่า การเดินทางในวันแรกพบว่าตลอดเส้นทางที่ครอบครัวควาญช้างเดินเท้าผ่าน ได้รับความช่วยเหลือจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยได้พากันนำผลไม้ น้ำดื่มและอาหารมอบให้ทั้งคนและช้างกินประทังชีวิต ทำให้ตนเองและครอบครัวรู้สึกซึ้งในน้ำใจของคนไทยเป็นอย่างมาก
นอกจากนั้น ยังมีผู้ใจบุญหลายรายที่ขอเลขบัญชีธนาคารเพื่อโอนเงินช่วยเหลือ แต่ทางครอบครัวได้ปฏิเสธและแสดงความขอบคุณเนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดกระแสดรามาในโลกออนไลน์ และเกรงว่าจะถูกกล่าวหาว่านำช้างออกมาเร่ร่อนหากิน แต่หากผุ้ใจบุญจะช่วยนำอาหารหรือผลไม้มาให้ช้างตามเส้นทางที่เดินผ่านก็พร้อมน้อมรับและขอขอบคุณล่วงหน้า
สำหรับเส้นทางที่ครอบครัวควาญช้างจะเดินเท้ากลับบ้านเป็นเส้นทางสาย 331 มุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน ซึ่งผู้ใจบุญสามารถโทรศัพท์สอบถามเพื่อเตรียมนำอาหารช่วยเหลือได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 09-3335-7062