หนุ่มกาฬสินธุ์คืนถิ่น เลี้ยงโคเนื้อชาโรเลส์ โอ่ให้เนื้อมากเลี้ยงง่ายรายได้งาม

กาฬสินธุ์ - หนุ่มกาฬสินธุ์ทิ้งงานขายส่งสินค้าที่ภาคตะวันออก กลับบ้านเกิดหันมาเลี้ยงโคเนื้อสายพันธุ์ชาโรเลส์ เผยเลี้ยงง่าย โตเร็ว ให้เนื้อมาก ชี้เป็นสัตว์เศรษฐกิจทางเลือกใหม่ ช่วยทำให้คนคืนถิ่นมีงานทำ ตอบโจทย์เลี้ยงโคอย่างไรให้อยู่ได้ ขายได้ มีกำไร


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ฟาร์มค้ำคูณ ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ฟาร์มเลี้ยงโคเนื้อสายพันธุ์ชาโรเลส์และบราห์มันประสบความสำเร็จ มีโคเนื้อหมุนเวียนเพื่อการค้าเที่ยวละกว่า 30 ตัว แต่ละวันจะมีชาวบ้าน เกษตรกรผู้เลี้ยงโค แวะเวียนไปติดต่อและขอคำปรึกษาจำนวนมาก โดยมีนายสุพิน ภูถินโคก อายุ 34 ปี เจ้าของค้ำคูณฟาร์ม เกษตรกรที่ประสบผลสำเร็จด้านการเลี้ยงโคเนื้อ ซึ่งก่อนหน้าเคยประกอบอาชีพขายส่งสินค้าและพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งแถวภาคตะวันออก และหันกลับมาประกอบอาชีพเลี้ยงโคที่บ้านเกิด

นายสุพิน ภูถินโคก เจ้าของฟาร์มค้ำคูณ กล่าวว่า อดีตตนเคยประกอบธุรกิจขายส่งสินค้า และเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในเขตอุตสาหกรรม จ.ระยอง เนื่องจากธุรกิจประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ จึงกลับบ้านเกิดเลี้ยงโคเนื้อสายพันธุ์บราห์มัน ก่อนที่จะต่อยอดมาเป็นสายพันธุ์ชาโรเลส์ จำหน่ายเป็นโคเนื้อ เป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ลูกค้าที่สนใจจะซื้อไปผสมพันธุ์ และจำหน่ายในรูปแบบเนื้อสด ต่อมาเมื่อได้รับความนิยมขึ้นจึงนำเข้าพ่อพันธุ์จากอเมริกาเพื่อจำหน่ายน้ำเชื้อด้วย

ก่อนหน้านี้ตลาดโคเนื้อซบเซามากจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ทำให้บรรยากาศการเลี้ยงโคเนื้อพันธุ์ผสมและศูนย์ผลิตน้ำเชื้อเพื่อจำหน่ายไม่คึกคักเท่าที่ควร ฟาร์มหลายแห่งปิดตัวลง ตนเป็นลูกชาวนา ชีวิตผูกพันอยู่กับโค เมื่อกลับบ้านเกิดอีกครั้งในปี 2560 จึงรวบรวมทุนทรัพย์ที่พอมีอยู่สั่งซื้อโคเนื้อสายพันธุ์บราห์มันและพันธุ์ชาโรเลส์มาขุน ซึ่งกระแสตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสายพันธุ์ชาโรเลส์ ปัจจุบันมีเจ้ามาริโอเป็นพ่อพันธุ์ และพ่อพันธุ์นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา และนำตัวอ่อนมาเกิดในไทย มีโคเนื้อทั้ง 2 สายพันธุ์ในฟาร์มและในแปลงจำนวน 30 ตัว




นายสุพินกล่าวว่า เหตุผลที่โคเนื้อสายพันธุ์ชาโรเลส์ได้รับความนิยมนั้นเนื่องจากเลี้ยงง่าย โตเร็ว ให้เนื้อมาก มีความต้านทานต่อโรค สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศบ้านเราได้ดี กินอาหารไม่เลือก แทบไม่ต้องให้อาหารเสริมเลย เพราะธรรมชาติของโคสายพันธุ์นี้จะกินฟางแห้ง ขณะที่ท้องถิ่นบ้านเรามีให้กินทั้งฟางและหญ้า ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นฤดูแล้งจึงไม่ต้องกังวลว่าจะขาดแคลนหญ้าหรืออาหารเลี้ยงโค สามารถกินฟางเป็นอาหารหลักได้ ที่สำคัญไม่กระทบต่อการเจริญเติบโตโครงสร้าง และการสร้างกล้ามเนื้อโค

“ค้ำคูณฟาร์มได้รับการรับรองโดยกรมปศุสัตว์ ศูนย์ผลิตน้ำเชื้อมาตรฐานแช่แข็ง นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ชาโรเลส์แท้ 100% บริการน้ำเชื้อชาโรเลส์และน้ำเชื้อบราห์มันทั้งไทยและต่างประเทศ พร้อมบริการเคลื่อนย้ายโคทั่วภาคอีสานถูกต้องตามกฎหมาย การตั้งฟาร์มเลี้ยงโคไม่เพียงแต่ผมจะได้กลับมาอยู่บ้านเกิด ยังมีส่วนช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคและชุมชนมีรายได้จากการจำหน่ายโค เนื้อสดและแปรรูป เกิดเงินหมุนเวียนในชุมชน รวมทั้งได้ปุ๋ยคอกจำหน่ายบำรุงพืช นาข้าว แปลงอ้อย แปลงมันสำปะหลังอีกด้วย” นายสุพินกล่าว




การเลี้ยงโคเนื้อ โดยเฉพาะพันธุ์ชาโรเลส์นั้นถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจทางเลือกใหม่ที่มีอนาคต ดีกว่าเลี้ยงโคสายพันธุ์อื่นที่เลี้ยงยาก และตลาดแคบลง นอกจากนี้ ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผู้คนกลับถิ่นจำนวนมาก หากหันมาเลี้ยงโคเนื้อจะเป็นการแก้ปัญหาว่างงานและตอบโจทย์การเลี้ยงโคอย่างไรให้อยู่ได้ ขายได้ มีกำไรได้เป็นอย่างดี เพราะจุดเด่นสายพันธุ์ชาโรเลส์คือโตเร็ว อายุ 6 เดือนจำหน่ายได้ สามารถผสมพันธุ์ได้ แม้ในสภาพอากาศที่แห้งแล้ง เลี้ยงง่าย กินง่าย เพราะประหยัดหญ้า กินแต่ฟางแห้งก็อ้วนท้วนสมบูรณ์ ให้เนื้อมาก ปัจจุบันตลาดต้องการเนื้อโคพันธุ์ชาโรเลส์มาก