กาญจนบุรี - ชาวห้วยกระเจารวมตัวให้กำลังใจลุงตู่-ลุงป้อม-รมว.ทส.-อธิบดีน้ำบาดาล หลังเจอประเด็นดรามาบ่อบาดาลพิมรี่พาย พร้อมชวนมาดูของจริงที่ห้วยกระเจา
จากกรณี น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือ “พิมรี่พาย” แม่ค้าขายของออนไลน์ชื่อดัง ลงพื้นที่หาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งให้แก่ชาว ต.ดู่ลาด อ.ทรายมูล จ.ยโสธร ด้วยการใช้เงินส่วนตัว จำนวน 190,000 บาท ขุดเจาะบาดาลที่ความลึก 40 เมตร ก็ได้น้ำมาให้ชาวบ้านได้ใช้ สร้างความดีใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ต่อมา โลกโซเชียลได้นำผลงานของพิมรี่พาย ไปเปรียบเทียบกับผลงานและงบประมาณที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ใช้งบประมาณในการขุดเจาะบาดาลแต่ละบ่อกว่า 1 ล้านบาท จากนั้นโลกโซเชียลได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้งบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลกับงบที่พิมรี่พาย ใช้จ่ายในการเจาะบาดาลที่มีราคาห่างกันหลายเท่าตัว
ต่อมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการขุดเจาะบาดาลที่มีราคาแตกต่างกันว่า เรื่องของราคาแพงหรือไม่แพง ขึ้นอยู่กับความลึกของบ่อน้ำบาดาล ถ้าขุดลึกก็ต้องใช้เงินแพง แต่ถ้าตื้นก็ใช้เงินถูก แต่ละบ่อจะเท่ากันได้อย่างไร บ่อหรือบึงบางครั้งลึก 300-400 เมตร จะไปขุด 30 เมตร ก็ไม่ได้ และท่อที่ใส่ลงไปก็ไม่เหมือนกัน ยืนยันว่า เรื่องราคาสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา การดำเนินการทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ ไม่ว่าหน่วยงานไหนก็ตาม
ในที่สุด พิมรี่พาย ได้ออกมากล่าวผ่านไลฟ์ขณะขายของว่า “เวลาที่ทำบุญทีไรต้องมีดรามาทุกที แต่ก็นับเป็นเรื่องที่ดีที่สังคมพูดถึงความแคลงใจ เมื่อก่อนนั้นประชาชนไม่มีสิทธิรับรู้ว่าเอาเงินส่วนกลางไปทำอะไรบ้าง แต่ตอนนี้โลกมันเปลี่ยนไป ประชาชนมีสิทธิแสดงความคิดเห็น ต้องการทราบงบส่วนกลางทำอะไรได้บ้าง ก็ดีแล้ว พอมีดรามาหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ต้องออกมาชี้แจง ในโลกนี้มีแต่คนเก่งขึ้นทุกวันจนไม่มีที่ให้คนโง่ยืนเลย แต่โลกนี้ขาดอยู่อย่างเดียว คือ คนที่พยายามเข้าใจคนอื่น
หลังจากนี้ ตนจะคิดหน้าคิดหลังให้ดีว่าสิ่งที่ทำจะกระทบกับใครบ้าง ตอนขุดบ่อบาดาลตนก็คิดว่าไม่น่าจะกระทบกับใคร เพราะใช้โซลาร์เซลล์ ทำทิ้งเอาไว้ ถ้าเขาใช้ก็ใช้ ถ้าเจอสิ่งที่ดีกว่าก็ไปใช้สิ่งที่ดีกว่าแค่นั้น ส่วนบ่อบาดาลที่ไม่ได้ขุดลึกเพราะกลัวเจอนรกค่ะ” โดยทั้งหมดกลายเป็นกระแสดรามาเกิดขึ้นในปัจจุบัน
จากกรณีดังกล่าว ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (6 เม.ย.)ที่วัดพะยอมงาม หมู่ 12 ต.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ประชาชนชาวตำบลห้วยกระเจาจากทั้ง 21 หมู่บ้านหลายร้อยคน นำโดยนายสิริพงศ์ สืบเนียม อดีตนายกเทศมนตรีตำบลห้วยกระเจา นายพัชรพล สืบดา กำนันตำบลห้วยกระเจา รวมทั้งผู้ใหญ่บ้านจากหมู่บ้านต่างๆ
เดินทางมารวมตัวพร้อมชูป้ายให้กำลังใจแก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) รวมทั้งนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เจ้าหน้าที่สำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 2 (สุพรรณบุรี)
ที่สามารถดำเนินการขุดเจาะสำรวจเพื่อหาแหล่งน้ำบาดาลมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งซ้ำซากในพื้นที่ตำบลห้วยกระเจาตาม “โครงการศึกษาสำรวจและรูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาลจากแหล่งกักเก็บในหินแข็งระดับลึกในพื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อน” ได้สำเร็จทำให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลห้วยกระเจาต่างรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อมีปัญหาดรามาเกิดขึ้นตามข้อมูลข้างต้นทำให้ชาว ต.ห้วยกระเจา ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวต่างรู้สึกไม่สบายใจถึงแม้จะเป็นคนละพื้นที่ รวมทั้งมีภูมิประเทศที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงก็ตาม สำหรับการรวมตัวกันในครั้งนี้ใช้เวลาไม่นานนักก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
ทั้งนี้ นายพัชรพล สืบดา กำนันตำบลห้วยกระเจา กล่าวว่า ตำบลห้วยกระเจาเป็นตำบลที่มีความแห้งแล้งซ้ำซากมากและพื้นที่ของเราเป็นพื้นที่ที่มีหินและไม่มีน้ำ แต่เมื่อกรมทรัพยากรน้ำบาดาลนำทีมเข้ามาสำรวจจนกระทั่งเจอตาน้ำแต่ว่าต้องเจาะลึกลงไปอย่างน้อย 300-400 เมตร และน้ำบาดาลที่ได้มาสามารถช่วยเหลือชาวบ้านได้ทั้งตำบล
ดังนั้น ต้องขอขอบคุณทางรัฐบาล โดยเฉพาะท่านนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และเจ้าหน้าที่ที่มาช่วยหาแหล่งน้ำช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งต่อไปชาวบ้านตำบลห้วยกระเจาจะได้มีน้ำที่สะอาดเอาไว้ใช้สำหรับอุปโภคบริโภค และภาคการเกษตร ซึ่งโครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการที่ดี
นายพัชรพล สืบดา กำนันตำบลห้วยกระเจา กล่าวว่า ส่วนในเรื่องของสื่อในโลกโซเชียลที่กำลังดรามาอยู่ในขณะนี้ ตนรู้สึกเห็นใจรัฐบาล เพราะรัฐบาลได้พยายามช่วยเหลือประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งพื้นที่ของอำเภอห้วยกระเจาเป็นพื้นที่สีแดงมาโดยตลอด ต้องขอบคุณรัฐบาลที่เข้ามาช่วยเหลือ จากประเด็นดรามา ก็ขอให้คุณ “พิมรี่พาย” เข้ามาช่วยเหลือพวกเราด้วยก็ได้ เพราะจะได้เข้ามาช่วยเหลือกันในการพัฒนาประเทศของเรา เมื่อเราคิดอย่างนี้จะได้ไม่ต้องไปลงสื่อโซเชียลที่คอมเมนต์กันไปมา ตนเองมองว่ามันไม่ได้ความจริง แต่ถ้าอยากรู้ความจริงขอให้มาที่ตำบลห้วยกระเจา มาเจอกับพวกผมได้เลย จะได้ช่วยชี้แจงข้อเท็จจริงว่าชาวบ้านของเราเดือดร้อนอย่างไร และรัฐบาลได้เข้ามาช่วยเหลือพวกเราอย่างไรบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ “โครงการศึกษา สำรวจ และรูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาลจากแหล่งกักเก็บในหินแข็งระดับลึกในพื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อน” เพื่อหาแหล่งน้ำมาช่วยเหลือประชาชนชาวตำบลห้วยกระเจาที่ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซากมากว่า 30 ปีนั้น ปัจจุบันกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ดำเนินการเจาะบาดาลในพื้นที่บ้านพยอมงาม หมู่ 12 ต.ห้วยกระเจา จำนวน 6 บ่อ แต่ละบ่อลึกประมาณ 100-320 เมตร น้ำบาดาลที่ได้อยู่ที่บ่อละ 10-20.57 ลบ.ม.ต่อชั่วโมง และพื้นที่บ้านทุ่งคูณ หมู่ 19 ต.ห้วยกระเจา จำนวน 6 บ่อ แต่ละบ่อลึก 100-300 เมตร แต่ละบ่อได้น้ำบาดาลอยู่ที่ 15-40 ลบ.ม.ต่อชั่วโมง