ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “บิ๊กตู่” สั่งผู้ว่าฯ โคราชไปเยี่ยม “น้องมิ้นท์” เหยื่อบั้งไฟตะไลตกใส่ศีรษะสาหัส และให้กำลังใจพ่อแม่ ด้านแพทย์เจ้าของไข้เผยห่วงสมองเสียหายมากพลุตะไลระเบิดเข้าลึกจนถึงแกนสมอง อาการยังโคม่า ไม่รู้สึกตัว และใช้เครื่องช่วยหายใจ ระดมเครื่องมือแพทย์ขั้นสูงช่วยยื้อชีวิตเต็มที่ พ่อแม่เชื่อปาฏิหาริย์ต้องมีจริง
วันนี้ (1 เม.ย.) ความคืบหน้ากรณีบั้งไฟตะไล หรือพลุตะไลที่ใช้จุดในงานฌาปนกิจศพตกใส่ศีรษะ เด็กหญิงณัฐชา สวัสดี หรือน้องมิ้นท์ อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนอาจวิทยาคาร ตำบลตะคุ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ขณะน้องมิ้นท์พร้อมเพื่อนรวม 3 คนกำลังเดินออกโรงเรียนจะกลับบ้านหลังเลิกเรียน ทำให้น้องมิ้นท์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพราะอาการโคม่า ไม่รู้สึกตัว ขณะที่ตำรวจ สภ.ปักธงชัยได้แจ้งดำเนินคดีชาย 2 คนที่เป็นผู้จุดพลุตะไลในงานศพแล้วในข้อหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ตามข่าวที่เสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดวันนี้ที่หอผู้ป่วยหนักศัลยกรรม 1 ชั้น 6 อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ อาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ภายในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากความห่วงใยและมอบให้เป็นตัวแทนเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของน้องมิ้นท์ พร้อมให้กำลังใจนางพัชรี ช่วงจะโป๊ะ และ นายนิรุต สวัสดี แม่และพ่อของน้องมิ้นท์ ซึ่งยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจร้องไห้ตลอดเวลา มีนายแพทย์ เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และ นพ.เชิดศักดิ์ แสงศิริทองไชย ผู้ช่วย ผอ.โรงพยาบาลมหาราชฯ อาจารย์แพทย์เจ้าของไข้ที่ให้การรักษาน้องมิ้นท์ พร้อมกันเข้าดูอาการที่เตียงผู้ป่วยเตียงที่ 9 โดยมีอุปกรณ์การแพทย์รอบเตียง ซึ่งยังคงใช้เครื่องช่วยหายใจ ไม่รู้สึกตัว เครื่องวัดคลื่นสมอง วัดชีพจร ความดัน อุณหภูมิร่างกาย ให้น้ำเกลือ กลูโคส และต่อท่อปัสสาวะ
โดยพ่อแม่ได้นำตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลสวมเสื้อยืดลายทางสีแดงตัวโปรดมาวางไว้ที่หน้าอกเพื่อให้น้องมิ้นท์ได้รับความอบอุ่น ขณะที่บริเวณหน้าห้องผู้ป่วยมีญาติๆ พี่น้อง ครูอาจารย์มาเยี่ยมให้กำลังใจจำนวนมากกว่า 20 คน ญาติได้นำเสื่อและอาหารน้ำมารับประทานขณะรอฟังอาการอย่างใกล้ชิด โดยให้ญาติเข้าเยี่ยมได้ครั้งละไม่เกิน 2 คน
ต่อมานายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและคณะผู้บริหาร สพฐ.ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจพ่อแม่ และน้องมิ้นท์ พร้อมทั้งมอบกระเช้าและเงินเป็นกำลังใจ
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จากการสอบถามคณะแพทย์ที่รักษาอาการน้องวันนี้คงที่ ทรงตัว ทุกคนเอาใจช่วย ช่วยกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ ส่วนพลุที่ใช้เรียกว่า บั้งตะไลที่ชาวบ้านชอบจุดกัน ส่วนเรื่องการดำเนินคดีเราให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปักธงชัยตรวจสอบการอนุญาตการจุดพลุ จุดตะไล ถ้าไม่มีการอนุญาตก็คงต้องดำเนินคดีในข้อหาจุดพลุจุดตะไลดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตนเป็นตัวแทนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ฝากความปรารถนาดีมายังพ่อแม่ และน้องมิ้นท์ด้วย รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สั่งให้ตนมาเยี่ยมและให้กำลังใจ และตนได้นำแจ้งพ่อแม่น้องมิ้นท์แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อเช้าวันนี้ตนได้สั่งการให้นายอำเภอปักธงชัย และฝ่ายปกครองตรวจสอบในข้อกฎหมายแล้ว ซึ่งพบว่าการจะจุดพลุหรือตะไลในงานพิธีต่างๆ ตามกฎหมายต้องมีการขออนุญาตฝ่ายปกครองล่วงหน้าก่อนทุกครั้ง ไม่น้อยกว่า 15 วัน หลังจากนี้ตนจะได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปักธงชัย เพื่อให้เข้าไปตรวจสอบอีกครั้งว่างานศพดังกล่าวได้มีการขออนุญาตการจุดพลุตะไลถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากไม่ได้มีการขออนุญาตก็จะต้องมีการดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมายต่อไป
ส่วนหลังจากการจะอนุญาตให้จุดพลุตะไลในงานพิธีต่างๆ ต้องมีการพิจารณาเรื่องของความปลอดภัยอย่างเข้มงวดก่อน หากไม่มีความจำเป็น และไม่มีมาตรการในด้านความปลอดภัยที่เพียงพอจะไม่อนุญาตง่ายๆ เด็ดขาด เพราะนอกจากความไม่ปลอดภัยกรณีตกใส่คนเช่นกรณีนี้แล้ว อาจจะมีในเรื่องของก่อให้เกิดไฟไหม้ชุมชน หรือตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายได้
นพ.เชิดศักดิ์ แสงศิริทองไชย ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อาจารย์แพทย์เจ้าของไข้ที่ให้การรักษาน้องมิ้นท์ กล่าวว่า อาการวันนี้ความดันของน้องอยู่ในเกณฑ์ปกติ ออกซิเจนในเลือดปกติ น้องยังไม่รู้สึกตัว และยังต้องใช้เครื่องหายใจ ตอนนี้แพทย์ห่วงทางด้านสมองที่ได้รับความเสียหายจากการที่พลุตะไลเข้าไปลึกมาก และไประเบิดข้างในอีกถึงใกล้กับแกนสมอง สมองเสียหายมาก อาการโคม่า หมอก็พยายามช่วยเหลือทุกอย่างทุกทาง ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งหมดดีที่สุดของโรงพยาบาลเข้ามาช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามหมอยังพบบาดแผลข้างในด้วย แต่จะระบุไม่ได้แน่ชัดทั้งหมด
นางพัชรี ช่วงจะโป๊ะ อายุ 33 ปี แม่ของน้องมิ้นท์ เปิดเผยว่า หลังเข้าเยี่ยมดูหน้าตาน้องมิ้นท์สดใสขึ้น น่าจะดีขึ้น ดูแล้วน่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ตนและพ่อได้ไปกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านก็เชื่อว่าปาฏิหาริย์ต้องมีจริงและขอให้เป็นแบบนั้น ต้องขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีที่ฝากความห่วงใยมาให้ครอบครัวของเรา วันนี้เป็นวันที่สี่ อาการดีขึ้นในระดับหนึ่ง ความรู้สึกก็เหมือนกันดีขึ้นในระดับหนึ่ง