นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เผยผ่านการทำกายภาพบำบัดมาแล้ว 2 ครั้งในชีวิต ครั้งแรกเมื่อกว่า 10 ปีก่อน โดยทั้ง 2 ครั้งได้คืนชีวิตให้แก่ตนเอง ทั้งนี้ ได้ขอบคุณนักกายภาพบำบัดที่มากฝีมือ มีความอดทน และความเอาใจใส่ ทำให้ตนเองดีขึ้นได้
จากกรณีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ลงพื้นที่ใกล้ชิดกับชาวบ้านตลาดกลางกุ้ง ตั้งแต่วันแรกที่ทราบข่าวมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 63 กระทั่งวันที่ 27 ธ.ค. 63 ลงพื้นที่ไปพร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ร่วมกันกินอาหารทะเลปรุงสุก จากนั้นเริ่มป่วยตรวจร่างกาย รพ.สมุทรสาคร นอนดูอาการและได้รับการยืนยันว่าติดโควิด-19 เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 63 ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ผู้ว่าฯ ปู สามารถออกจาก รพ.ได้แล้ว สามารถเดินทางกลับจังหวัดสมุทรสาคร เผยกำลังใจเต็มร้อย เตรียมกลับไปดูแลชาวสมุทรสาคร
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 29 มี.ค. นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Sakravee Srisangdharma” เล่าถึงการทำกายภาพบำบัดระหว่างการรักษาพักฟื้นจากการติดเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตที่ตนเองได้รับการทำกายภาพบำบัด โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า
“กายภาพบำบัด คืนชีวิตให้ผมมาสองครั้งแล้ว
ครั้งแรกคือเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนที่ผมเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ร่างกายซีกขวาใช้การแทบไม่ได้ทั้งซีก ต้องเริ่มฝึกหัดทุกอย่างใหม่ ทั้งฟื้นฟูร่างกายซีกขวาให้กลับมามีเรี่ยวแรงมากขึ้น และเปลี่ยนมาฝึกเขียนหนังสือและฝึกใช้ชีวิตด้วยข้างซ้ายเป็นหลักแทน ครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมตกใจมาก ตอนเห็นร่างกายตัวเองหลังฟื้นคืนสติขึ้นมา แขนขามีแต่หนังหุ้มกระดูก ไม่มีกล้ามเนื้อ ไม่มีเรี่ยวแรง
แค่นั่งพิงเก้าอี้ข้างเตียงไม่กี่นาที หรือพูดไม่กี่ประโยคก็เหนื่อยเหมือนใจจะขาด คิดเสียใจที่เคยปรามาสโรคนี้ไว้ว่าคงจะอาการไม่หนัก และถอดใจว่าเราคงไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติได้อีกแล้ว แต่ได้แรงคุณหมอเวชศาสตร์ฟื้นฟูและนักกายภาพบำบัดทุกท่าน เข้ามาหัดให้ผมหายใจ หัดพูด นั่ง ยืน เดิน คืบหน้าไปแต่ละวันอย่างช้าๆ ทำให้ทุกวันนี้ผมกลับมาพูดได้ เดินได้ กินข้าวเองได้ และทำงานได้ ถึงจะยังต้องฟื้นฟูอีกมากก็ตาม ถ้าเปรียบคุณหมอเป็นผู้กู้ชีพ รักษาอาการป่วยให้ผม
เวชศาสตร์ฟื้นฟู และนักกายภาพบำบัด ก็ถือเป็นผู้คืนชีวิตชีวา ให้ผมกลับคืนมาดูแลตัวเองต่อได้ การฟื้นคืนกลับมามีชีวิตของผม คือเรื่องราวที่เหมือน ”ปาฏิหาริย์” เป็นปาฏิหาริย์ที่มาจากการรักษาของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง กำลังใจจากทุกผู้คนที่มอบให้ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของผม มาจากฝีมือ ความอดทน และความเอาใจใส่ของนักกายภาพบำบัดนี่เองครับ”