เชียงใหม่ - เชียงใหม่ยังระดมทั้งกำลัง จนท.และเฮลิคอปเตอร์ ดับไฟป่าไหม้ดอยทั้งลูกที่สะเมิง สามารถคุมและจำกัดวงได้แล้ว พร้อมวางกำลังเฝ้าระวังต่อเนื่องป้องกันปะทุลุกลามซ้ำ พบปัญหาอุปสรรคพื้นที่สูงชันและเชื้อเพลิงสะสมจำนวนมากจากการทับถมตลอด 3 ปี ขณะที่สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกฝุ่นควันปกคลุมหนาค่ามลพิษพุ่งอันดับ 3 ของโลก
ความคืบหน้ากรณีที่โซเชียลมีเดียแชร์และแสดงความเห็นห่วงใยอย่างกว้างขวางจำนวนมากเกี่ยวกับภาพไฟไหม้ป่าอย่างรุนแรงบนภูเขาทั้งลูกในพื้นที่บ้านศาลา ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนวานนี้ (29 มี.ค. 64) นั้น รายงานข่าวแจ้งว่า ตลอดทั้งวันนี้ (30 มี.ค.) เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าขุนขาน-สะเมิง, ชุดเหยี่ยวไฟ กรมป่าไม้, ชุดเสือไฟ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และชุดอาสาดับไฟของหมู่บ้าน ได้ร่วมกันควบคุมไฟ ยังคงระดมกำลังกันเข้าทำการดับไฟและควบคุมไฟที่ลุกไหม้ให้อยู่ในวงจำกัด พร้อมกันนี้ยังได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บรรทุกน้ำขึ้นโปรยดับไฟด้วยซึ่งสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ โดยไฟยังมีการลุกไหม้อยู่และกลุ่มควันลอยขึ้นอย่างต่อเนื่องบางจุด แต่เจ้าหน้าที่มีการจัดกำลังเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเพื่อควบคุมไฟไว้ไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้างอีก
โดยนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์การเกิดจุดความร้อนในเขตพื้นที่อำเภอสะเมิง ในช่วงบ่ายของวันที่ 29 มีนาคม 2564 จำนวน 7 จุด โดยเกิดขึ้นในเขตป่าอนุรักษ์ ตำบลสะเมิงใต้ จำนวน 3 จุด เขตป่าอนุรักษ์ ตำบลสะเมิงเหนือ จำนวน 1 จุด และเขตป่าสงวนฯ ซึ่งเป็นพื้นที่บริหารจัดการเชื้อเพลิงอีก 3 จุด และมีการเผยแพร่ภาพในสื่อโซเชียล จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 พื้นที่บ้านศาลา-ป่ากล้วย หมู่ที่ 4 ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง ซึ่งเป็นพื้นที่ลาดชัน เป็นผาหิน มีลักษณะเป็นป่าไผ่แห้ง
ทั้งนี้ พบด้วยว่าไม่มีการเผาไหม้มาประมาณ 3 ปี ทำให้มีเชื้อเพลิงสะสมเป็นจำนวนมาก และไม่สามารถดับไฟได้รวดเร็ว ทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังทุกภาคส่วนร่วมเฝ้าระวังและจัดทำแนวกันไฟในพื้นที่โดยรอบ และเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 ได้มีการเสริมกำลังเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ลำ ขึ้นปฏิบัติการดับไฟจำนวน 50 เที่ยว และในวันนี้ (30 มี.ค.) ได้เพิ่มกำลังเฮลิคอปเตอร์เป็น 3 ลำเข้าดับไฟ และกำลังเจ้าหน้าที่อีก 120 นายร่วมทำแนวกันไฟเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะสามารถจำกัดพื้นที่เผาไหม้จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ในวันนี้
ขณะที่สภาพอากาศทั่วไปของเขตพื้นที่อำเภอสะเมิง เช้าวันนี้ (30 มี.ค.64) เวลา 09.00 น. พบว่า ยังมีควันคุกรุ่น อยู่ เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินทั้งหมดรวมทั้งทีมโดรน ยังคงตรึงอยู่ในพื้นที่เพื่อควบคุมหัวไฟและท้ายไฟ ส่วนค่าคุณภาพ (PM 2.5) อยู่ที่ 125 มิลลิกรัม และมีกระแสลมพัดมาจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็วประมาณ 7 กม./ชม. (ณ เวลา 09.00 น.) และจากการพยากรณ์อากาศในระบบ CMDSS คาดว่าในช่วงบ่ายวันนี้อากาศจะยกตัวขึ้นประมาณ 1,000 มิลลิบาร์ (อากาศยกตัวได้ดี) ความเร็ว 16 กม./ชม. และคาดว่าจะมีฝนตกในบ่ายวันนี้ ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งกำลังเข้าพื้นที่เสริมกำลังการปฏิบัติการแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ขอให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามรับฟังข่าวสารและข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อจะไปฏิบัติตัวและการดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้อง โดยแนะนำให้ประชาชนควรสวมหน้ากากอนามัย ลดกิจกรรมกลางแจ้ง ดื่มน้ำในปริมาณมาก ใช้น้ำเกลือกลั้วคอป้องกันการเจ็บคอและควรปิดประตู หน้าต่างไม่ให้ฝุ่นเข้า ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะเด็กเล็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ และผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ โรคประจำตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด ต้องดูแลตนเองเป็นพิเศษ โดยในส่วนของอำเภอสะเมิง ได้จัดตั้งพื้นที่ Safety Zone ไว้ให้บริการประชาชนแล้ว 20 แห่ง ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ว่าการอำเภอ โรงพยาบาลประจำอำเภอ และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดของ Safety Zone ได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 0-5321-1048
สำหรับสภาพตัวเมืองเชียงใหม่ตลอดทั้งวันนี้ พบว่าถูกปกคลุมหนาทึบด้วยฝุ่นควันจากการเผาป่า ส่วนหนึ่งคาดว่าจะมาจากไฟไหม้ป่าในพื้นที่อำเภอสะเมิงด้วย ทั้งนี้ รายงานข้อมูลคุณภาพอากาศจากเว็บไซต์ www.iqair.com ที่รายงานผลตรวจวัด คุณภาพ อากาศจากเมืองสำคัญต่างๆ ทั่วโลก พบว่าคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ เมื่อเวลา 13.00 น. แย่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 177US AQI และค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อยู่ที่ 105.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนเมืองที่คุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก ได้แก่ อันดับ 1 เมืองกาฏมัณฑุ ประเทศเนปาล ดัชนีคุณภาพอากาศ 266 US AQI และอันดับ 2 เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน มีคุณภาพอากาศ 181US AQI