เชียงใหม่ - เตือนคนเชียงใหม่รับสภาพวิกฤตฝุ่นควันอีกหลายวัน เหตุพบการเผาในประเทศเพื่อนบ้านและจังหวัดใกล้เคียงกว่า 2,000 จุด โดนกระแสลมหอบควันมาสะสม ขณะที่ล่าสุดฝุ่นควันคลุมหนาทึบทั้งเมืองค่า PM 2.5 และคุณภาพอากาศแย่กระทบสุขภาพ แนะงดออกนอกอาคารและสวมหน้ากากป้องกัน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงต้องดูแลพิเศษ
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (7 มี.ค.) สถานการณ์ปัญหาฝุ่นควัน ไฟป่า และคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงมีแนวโน้มรุนแรงต่อเนื่องตลอดหลายวันที่ผ่านมา โดยสภาพทั่วทั้งตัวเมืองเชียงใหม่ตลอดทั้งวันนี้ถูกปกคลุมหนาทึบด้วยฝุ่นควันลักษณะคล้ายหมอกขาวสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน และเมื่อสูดหายใจเข้าสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นไหม้ที่ปนเปื้อนในอากาศด้วย
ทั้งนี้ รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษจากสถานตรวจวัดในพื้นที่ตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ และตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พบว่าค่าฝุ่น PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง เมื่อเวลา 09.00 น. อยู่ที่ 92 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, 92 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ 86 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 202, 202 และ 190 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 100 ซึ่งอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมทั้งมีการแจ้งเตือนประชาชนให้งดออกทำกิจกรรมนอกอาคารและสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง โดยกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยเรื้อรังโรคทางเดินหายใจต้องดูแลเป็นพิเศษ
สำหรับจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ เช้าวันนี้มีจำนวน 104 จุด เป็นการเกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 61 จุด ป่าสงวนแห่งชาติ 41 จุด และในเขตพื้นที่ ส.ป.ก.อีก 2 จุด ซึ่งกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ KA-32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บินโปรยน้ำเพื่อบรรเทาความรุนแรงของเชื้อไฟ ควบคู่ไปกับการดับไฟป่าภาคพื้นดิน จนสามารถดับไฟได้ 17 จุด คงเหลืออีก 2 จุด ที่ลุกลามขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นไปรวม 7 จุด เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนบูรณาการกำลังเข้าดับไฟอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ได้สั่งการให้ทุกอำเภอประชุมผ่าน Video Conference เพื่อชี้แจงสาเหตุของจุดความร้อนที่เกิดขึ้นภายในเวลา 24 ชั่วโมง พร้อมสั่งการให้ตรวจสอบแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าของพื้นที่ที่เกิดจุดความร้อน นอกเหนือจากบริเวณที่ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการเชื้อเพลิง เพราะได้ประกาศงดเผาทุกพื้นที่ไปแล้ว จึงต้องใช้มาตรการทางกฎหมายทำให้เกิดความเกรงกลัวและไม่กล้ากระทำอีก
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 64 นางอาซือมา แซ่ลู่ ชาวบ้านบ้านห้วยส้าน หมู่ 10 ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับบาดเจ็บขณะบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ทำกินของตนเอง และไฟเกิดลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่าข้างเคียงจึงได้เร่งเข้าไปดับไฟ แต่ในช่วงนั้นมีลมแรงจึงถูกไฟคลอกขาท่อนร่างไหม้ระดับ 3 ทางฝ่ายอำเภอแม่อายได้ให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว
นอกจากนี้ ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากพบว่าพื้นที่ของฝั่งประเทศพม่า และพื้นที่โดยรอบของจังหวัดเชียงใหม่ มีจุดความร้อนจากไฟป่าและการเผาร่วม 2,000 จุดด้วยกัน ประกอบกับมีกระแสลมที่กำลังพัดพาควันไฟมาทางจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในช่วงมีอากาศร้อนอบอ้าวจะทำให้ฝุ่นควันลอยมาสะสมตัวในอากาศ ส่งผลต่อคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ที่จะย่ำแย่รุนแรงต่อเนื่องในช่วงหลายวันนี้