กาฬสินธุ์ - เกิดไฟป่าโหมไหม้ป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง รอยต่อ ต.บัวบาน และ ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด โดยไม่ทราบสาเหตุ เบื้องต้นเสียหายกว่า 500 ไร่ ด้าน ผอ.สนง.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ลั่นหากพบเห็นการเผาป่ามีโทษทั้งจำทั้งปรับสูงสุด 2,000,000 บาท พร้อมเดินหน้ารณรงค์ลดการเผาทุกชนิด ป้องกันฝุ่นจิ๋ว PM 2.5
วันนี้ (2 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเข้าสู่หน้าร้อน ทำให้มีสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ส่งผลให้ต้นไม้หลายพื้นที่แห้งเหี่ยว และประสบปัญหาไฟป่า โดยเฉพาะพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง เขต ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ สองฝั่งถนนสายปากทาง-เขื่อนลำปาว และพื้นที่ ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด ได้เกิดไฟป่าเผาไหม้ต้นไม้น้อยใหญ่ที่กำลังผลัดใบตามฤดูกาล ระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร ทั้งนี้ เป็นไฟป่าที่เกิดขึ้นเป็นประจำโดยไม่ทราบสาเหตุ เบื้องต้นคาดว่าได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 500 ไร่
ด้านนายอัครพงษ์ เขียวแจ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเกิดเหตุไฟไหม้ป่าที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติดงระแนงโดยไม่ทราบสาเหตุบ่อยครั้ง ทั้งนี้ ทราบว่าขณะนี้เปลวเพลิงได้สงบลงแล้ว เหลือให้เห็นความเสียหายที่เกิดขึ้น
เช่น ต้นไม้น้อยใหญ่ที่กำลังเจริญเติบโตตามธรรมชาติในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา และกำลังผลัดใบในฤดูแล้ง ถูกเปลวเพลิงโหมไหม้ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง
นายอัครพงษ์บอกอีกว่า สำหรับผลกระทบจากไฟไหม้ป่า นอกจากจะทำให้ป่าไม้ที่เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า และความร่มรื่นตามธรรมชาติได้รับความเสียหายแล้ว ยังทำให้สัตว์ป่าล้มตาย เกิดภาวะโลกร้อน และเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนอีกด้วย ดังนั้น นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ จึงได้ออกประกาศตามมติคณะรัฐมนตรี ขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ในการรณรงค์งดเว้นการเผาในที่โล่ง และพื้นที่การเกษตร รวมทั้งกำหนดมาตรการเด็ดขาด ลงโทษผู้กระทำผิดเผาป่าสงวนแห่งชาติหรือุทยานแห่งชาติเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีเป้าหมายสร้างอากาศดีเพื่อคนไทยและผู้มาเยือน
นายอัครพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ประกาศดังกล่าวได้ขอความร่วมมือส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ โรงเรียน สถาบันการศึกษา อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน ร่วมกันรณรงค์ อย่างไรก็ตาม หากพบการฝ่าฝืน กระทำผิด มีโทษทั้งจำทั้งปรับ เช่น จุดไฟเผาป่า หรือปล่อยให้ลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่าไม้ ถือเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
เช่น เสียหาย 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-200,000 บาท หรือความผิดตามมาตรา 55 (2) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ต้องระวางโทษตามมาตรา 99 จำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000-2,000,000 บาท
จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนรณรงค์งดการเผาทุกชนิดอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก และได้รับโทษจากการเผาพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดังกล่าว