นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูแล้งของทุกปีมักเกิดไฟป่าขึ้นเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ทั้งยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาหมอกควันไฟป่า โดยมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ PM10 เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม การคมนาคม และการท่องเที่ยว ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้ และสูญเสียงบประมาณในการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ และยานพาหนะในการดับไฟป่า โดยสาเหตุของการเกิดไฟป่าประการหนึ่งคือ เกิดจากการเผากำจัดวัชพืชทางการเกษตร เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรที่อยู่ใกล้พื้นที่ป่า โดยไม่มีการควบคุม ทำให้เกิดไฟไหม้ลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่า
ดังนั้นทางจังหวัดลำปางพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่า รวมถึงราษฎรได้มีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันของจังหวัดลำปาง จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 15 มาตรา 21 และมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ประกาศกำหนดให้ทั้ง 13 อำเภอ ของจังหวัดลำปาง งดเว้นการเผาป่า เผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เผาขยะ และเผาวัชพืชข้างทาง เผาในพื้นที่โล่งแจ้งทุกกรณี ในพื้นที่จังหวัดลำปาง ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 โดยเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย”