เชียงราย - จนท.ตำรวจ-ทหาร-ฝ่ายปกครอง ยึดพัสดุยัดลูกปืนรวม 6,000 นัด-ระเบิดลูกเกลี้ยง K75 อีก 50 กว่าลูก ส่งจากชลบุรีผ่านแม่สาย เตรียมส่งต่อข้ามฝั่งเข้าท่าขี้เหล็ก ระบุชื่อ-เบอร์โทร.คนรับ/คนส่งพร้อมสรรพ
วันนี้ (29 มี.ค.) ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ฝ่ายปกครองและทหารกองกำลังผาเมือง ได้ร่วมกันตรวจสอบของกลางกระสุนปืนขนาด 5.56 มม.ที่ใช้กับปืนขนาดเอ็ม 16 รวมกว่า 6,000 นัด ระเบิดขว้างสังหารบุคคล รุ่น K75 อยู่ในกล่องทรงกระบอกสำหรับบรรจุลูกระเบิด 52 ลูก เพื่อทำการขยายผลตามกฎหมาย
หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากร้านศักดิ์โมบายด์ เลขที่ 829/2 หมู่ 3 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ร้านรับส่งพัสดุภัณฑ์และรับจ้างรับส่งของไปยังฝั่งท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ครั้งละ 80-150 บาท เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้รับกล่องพัสดุด่วนเอกชนรายหนึ่งส่งมาจาก จ.ชลบุรี จำนวน 4 กล่อง แต่ทางร้านเห็นว่ามีลักษณะน่าสงสัยเพราะน้ำหนักมากผิดปกติ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบพบกล่องพัสดุ บรรจุกล่องลูกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม.กล่องละ 20 นัด ทั้งหมด 50 กล่อง รวมกล่องละจำนวน 1,000 นัด ทั้งหมด 4,000 นัด จึงตรวจยึดไว้
เย็นวันเดียวกัน มีกล่องพัสดุลักษณะเหมือนกันส่งมาที่ร้านอีก 6 กล่อง เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบพบภายในมีลูกกระสุนปืนแบบเดียวกันอีก 2,000 นัด (รวมของกลางตรวจยึดล็อตแรกเป็น 6,000 นัด) และยังมีระเบิดขว้างสังหารบุคคล รุ่น K 75 อยู่ในกล่องทรงกระบอกสำหรับบรรจุลูกระเบิด ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์พันทับด้วยเทปกาวสีน้ำตาล อยู่ในกล่องพัสดุใบแรก 15 ลูก ใบที่ 2 จำนวน 12 ลูก ใบที่ 3 จำนวน 10 ลูก และใบสุดท้าย 15 ลูก รวมทั้งหมดจำนวน 52 ลูก และทุกกล่องระบุชื่อผู้รับและผู้ส่งรวมถึงหมายเลขโทรศัพท์เหมือนกันหมด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พบชายคนหนึ่ง ทราบชื่อต่อมาคือนายมโนกรณ์ สั่งสอน อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175 หมู่ 1 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ 2716 ลำพูน เข้าไปรับกล่องพัสดุดังกล่าวและระหว่างนั้นได้ติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อจะลำเลียงกล่องพัสดุทั้งหมดส่งข้ามไปยังฝั่งท่าขี้เหล็ก เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายมโนกรณ์เอาไว้ และขยายผลไปควบคุมตัวนายทรงศักดิ์ สิริชัยรุ่งเรือง อายุ 31 ปี คนขับรถตู้รับจ้างข้ามแดนไทย-เมียนมา ผ่านทางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกันและกำลังจะมารับกล่องพัสดุเอาไว้ได้อีกคน
สอบสวนเบื้องต้นทั้งคู่ต่างให้การปฏิเสธ โดยนายมโนกรณ์อ้างตนเป็นเพียงคนรับจ้างนำกล่องพัสดุไปส่งให้ผู้รับที่ท่าขี้เหล็กเท่านั้น เมื่อไปถึงจะมีผู้ติดต่อสั่งการมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งที่ทำลงไปก็คิดว่าเป็นสินค้าอื่นที่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่ทราบว่าเป็นอาวุธสงคราม ส่วนนายทรงศักดิ์ก็ให้การว่าตนเป็นเพียงคนขับรถตู้รับจ้างก็ไม่ทราบว่าของในกล่องพัสดุเป็นอะไรเช่นกัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงทำการสอบปากคำอย่างละเอียดและรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อพิจารณาดำเนินคดีมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายต่อไป
