บุรีรัมย์ - สุดหดหู่! ลูกชายสุดชั่วชอบทำร้ายทุบตีพ่อพิการหลังค่อมวัย 65 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ทั้งใช้กำลังบังคับขืนใจแม่แท้ๆ เห็นกับตาแต่ทำอะไรไม่ได้ เคยแจ้งตำรวจจับแต่เอาตัวไปแล้วปล่อยอ้างเป็นผู้ป่วยจิตเวช ออกมาทำซ้ำเดิมต้องทนอยู่อย่างทุกข์ทรมาน ลูกสาวเผยเหมือนตกนรกทั้งเป็น วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
วันนี้ (18 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่ามีลูกชายของตายายครอบครัวหนึ่งชอบใช้กำลังทุบตีพ่อแม่ บางครั้งบังคับข่มขืนแม่แท้ๆ ของตัวเอง พอแจ้งตำรวจจับไม่กี่วันก็ปล่อยตัวออกมาทำเหมือนเดิมเพราะเขาบอกว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช จึงส่งไปให้หมอฉีดยาแล้วเอาตัวกลับมา จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวหลังเล็กๆ ติดพื้นดินล้อมด้วยสังกะสี พบกับ นายดำ (นามสมมติ) อายุ 65 ปี ซึ่งพิการหลังค่อมเดินไม่ค่อยสะดวก เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว 3 คน คือ ตนเอง นางแดง (นามสมมติ) อายุ 51 ปี ภรรยา และนายเอ็ม อายุ 22 ปี ลูกชายคนเล็ก ส่วน น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ลูกสาวคนโตไปอยู่กับครอบครัวที่หมู่บ้านอื่น เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมาลูกชายแอบเสพยาเสพติดจนมีอาการหลอนเริ่มมีพฤติกรรมทุบตีทำร้ายพ่อแม่ บางครั้งใช้มือตบหัว ถุยน้ำลายใส่ต่อว่าสารพัด ที่รับไม่ได้ที่สุดคือใช้กำลังบังคับขืนใจแม่แท้ๆ ของตัวเอง ตนเห็นกับตาแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะกลัวลูกจะทำร้าย ประกอบกับสภาพร่างกายของตัวเองคงสู้แรงลูกชายไม่ไหว
ที่ผ่านมาเคยแจ้งให้ตำรวจมาจับตัวไปหลายครั้ง แต่ทำได้แค่เอาตัวส่งโรงพยาบาลให้หมอฉีดยาแล้วไม่กี่วันก็ปล่อยตัวออกมาเนื่องจากมีประวัติเข้ารับการรักษาอาการทางจิตเวช ทำให้ทุกวันนี้ต้องทนอยู่ด้วยความทุกข์ทรมานทั้งกายและจิตใจ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือด้วย หากเป็นไปได้อยากให้จับไปติดคุกนานๆ เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นลูกเนรคุณ
ด้าน น.ส.เอ ลูกสาวคนโต เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รู้สึกแย่มากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนเป็นลูกคนโตแต่ช่วยอะไรพ่อแม่ไม่ได้ ใครไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้คงอธิบายไม่ได้ว่ามันแย่แค่ไหน ยอมรับว่าแม่เป็นคนชอบดื่มเหล้าแต่ที่แม่ถูกน้องชายทำร้ายร่างกาย และบังคับขืนใจก็สงสารทั้งพ่อและแม่แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะแจ้งความแล้วทำอะไรไม่ได้เพราะพี่ชายมีประวัติเป็นผู้ป่วยจิตเวชเคยเข้ารับการรักษา บางครั้งเหมือนคนปกติพูดคุยรู้เรื่อง แต่บางครั้งน่ากลัวเกรงว่าหากปล่อยไว้แบบนี้จะมีพฤติกรรมรุนแรงมากขึ้นกว่านี้
ขนาดตนยังกลัวเพราะเมื่อเช้าที่กล่อมให้น้องไปหาหมอโดยขอให้กู้ภัยบ้านสองเมืองช่วยพาส่งโรงพยาบาลประโคนชัย ช่วงที่นั่งรถไปน้องชายก็ยังพูดว่าขอจับหน้าอกหน่อย ซึ่งตนกลัวมาก แต่เคราะห์ดีที่พี่กู้ภัยฯ นั่งรถไปด้วยน้องจึงไม่ได้ทำอะไร แต่กลัวว่าไม่กี่วันน้องจะถูกปล่อยตัวออกมาแล้วจะมากระทำต่อพ่อแม่เหมือนเดิมซ้ำอีก
“ยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนตกนรกทั้งเป็น สงสารพ่อกับแม่มาก จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือด้วย ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้” น.ส.เอ ลูกสาวคนโต กล่าวในตอนท้าย