บุรีรัมย์ - เมียอดีตทหารบุรีรัมย์คลั่งถือมีดท่อนเหล็กบุกทวงเงินสินสอดจากลูกชายคืน ทั้งตะโกนโวยวายด่าทอขู่ทำร้ายลูกตลอดเวลา สร้างความแตกตื่น ตร.เข้าเกลี้ยกล่อม กลับหันมีดจี้คอตัวเองขู่ฆ่าตัวตาย พอลูกนำเงินมาให้ 5 พันยอมวางมีด ลูกชายเผยสุดอัดอั้นดูแลให้เงินแม่ใช้ตลอดแถมส่งเสียน้องอีก 3 คน แต่เวลาเงินหมดมาขอไม่ให้ทีไรจะเรียกร้องความสนใจเช่นนี้ทุกครั้ง
วันนี้ (4 มี.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ได้รับแจ้งมีเหตุหญิงคลุ้มคลั่งถือท่อนเหล็ก และมีดกวัดแกว่งไปมาขู่จะทำร้ายลูกตัวเอง เหตุเกิดบริเวณกลางถนนบ้านสวนครัว ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอุปกรณ์ไม้ง่ามได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบหญิงวัยกลางคน ทราบชื่อภายหลังคือ นางนิด (นามสมมติ) อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งเป็นเมียอดีตทหารที่เกษียณอายุแล้ว ยืนอยู่บนถนนหน้าอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง โดยในมือข้างขวาถือท่อนเหล็ก และมือข้างซ้ายถือมีดทำครัว 2 เล่ม ยืนตะโกนโวยวายและด่าลูกชายซึ่งเป็นเจ้าของอู่ดังกล่าวตลอดเวลา หาว่าลูกเนรคุณบ้าง ไม่รักบ้าง โดยบางช่วงตะโกนทวงเงินสินสอดจากลูกชายจำนวน 211,999 บาท พร้อมทองหนัก 5 บาท ทั้งบอกว่าตัวเองป่วยเป็นโรคจิตเวชไม่กลัวใคร จะทำร้ายหรือฆ่าใครก็ไม่ผิดอยู่แล้ว พร้อมท้าทายใครเข้ามาเดี๋ยวจะแทงไส้ไหลตนเคยมีประวัติมาแล้ว
ส่วนลูกชาย ลูกสาวที่อยู่ในอู่ซ่อมรถต่างก็ตกใจกลัวแม่จะทำร้าย ขณะคนที่ผ่านไปมาไม่กล้าเข้าใกล้กลัวจะถูกทำร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมบอกให้วางมีดลงแล้วค่อยๆ พูดคุยกัน แต่จู่ๆ หญิงคนดังกล่าวกลับหันมีดไปจี้คอตัวเองขู่ว่าถ้าใครเข้ามาก็จะฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่จึงยังไม่กล้าเข้าชาร์จเพราะกลัวจะได้รับอันตราย
ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงหญิงคลุ้มคลั่งยังไม่มีท่าทีจะสงบลง จากนั้นลูกชายซึ่งเป็นเจ้าของอู่ได้นำเงินจำนวน 5,000 บาทมาให้เจ้าหน้าที่เอาไปให้แม่ เพราะรู้ว่าที่แม่เป็นแบบนี้ต้องการเรียกร้องความสนใจแค่อยากได้เงิน แล้วพอหญิงที่เป็นภรรยาทหารด้วยกันซึ่งมาช่วยเกลี้ยกล่อมด้วยนำเงินไปยื่นให้ นางนิดก็ยอมเอาท่อนเหล็กและมีดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาการคลุ้มคลั่งก็สงบลง พร้อมยกมือไหว้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนางนิดไปสงบสติอารมณ์ก่อนจะปล่อยกลับบ้าน
ด้านนายเอ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ลูกชายคนโต บอกว่า ตนทำงานมาตั้งแต่อายุ 18 ปี พอได้ทำงานมีอู่ซ่อมรถเป็นของตัวเองก็ดูแลแม่และส่งเสียน้องอีก 3 คนเรียนจนจบปริญญา ปัจจุบันมีครอบครัวมีลูก 2 คน อายุ 1 ขวบ และ 3 ขวบ ต้องเลี้ยงดูครอบครัวด้วย แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเนรคุณพ่อแม่ ให้เงินใช้ตลอด แต่แม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยมากถ้ามีเงินจะเสริมสวยแต่งหน้าแต่งตัวออกไปนอกบ้านไม่รู้ออกไปทำอะไร พอเงินหมดจะเรียกร้องความสนใจลักษณะนี้บ่อย ก่อนเกิดเหตุมาโวยวายจะเอาเงินอีกพอไม่ให้ก็ไม่พอใจทำลายข้าวของในอู่ของตนเอง แล้วจู่ๆ ก็วิ่งไปเอามีดในอู่จะมาทำร้ายตนเองกับน้องสาว ในฐานะที่เป็นลูกไม่ได้โกรธเพราะอย่างไรก็เป็นแม่ แต่เสียใจที่แม่เป็นแบบนี้
