พระนครศรีอยุธยา - เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา จับกุม ผบ.หมู่ สส. พระนครศรีอยุธยา หลังก่อเหตุฆ่าแฟนสาวพร้อมเผาอำพรางศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เย็นวานนี้ (13 มี.ค.) ร.ต.อ.เสนีย์ พาชอบ พนังงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ได้ควบคุมตัว ส.ต.อ.ปิยะ นาโควงค์ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ สส. พระนครศรีอยุธยา หลังจากก่อเหตุฆ่า น.ส.ธัญญ์นิศา วิชนันท์คุณนิธิ อายุ 40 ปี แฟนสาว โดยพาไปชี้จุดเผาอำพรางบริเวณถนนหน้าปากซอยโรงเรียนวิเชียรกลิ่นสุคนธ์ หมู่ที่ 4 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบพบมีล้อยางรถยนต์ที่ถูกเผาแล้ว และมีเศษชิ้นส่วนกระดูก จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานทำการเก็บเพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากมีญาติของ น.ส.ธัญญ์นิศา วิชนันท์คุณนิธิ แจ้งความคนหายไว้เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา
ต่อมา เมื่อเวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า จากการสอบปากคำ ส.ต.อ.ปิยะ นาโควงค์ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ สส. พระนครศรีอยุธยา ตลอดทั้งวัน ส.ต.อ ปิยะ รับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุเวลา 02.00 น. ของวันที่ 11 มี.ค ตนเองกลับมาบ้านพักตำรวจ และเกิดการทะเลาะ น.ส.ธัญญ์นิศา ตนจึงได้ใช้หมอนกดจมูกจนสิ้นใจ จากนั้นได้นำศพใส่กระเป๋าเสื้อผ้าขนาดใหญ่แล้วนำใส่รถกระบะ นำไปเผาบริเวณซอยโรงเรียนวิเชียรกลิ่นสุคนธ์ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยใช้ยางรถยนต์ 2 เส้นจุดไฟเผาจนเหลือแต่กระดูก จากนั้นได้นำกระดูกที่เหลือใส่ถุง เดินทางมาบริเวณกลางสะพานอโยธยา ต.เกาะเรียน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อนำ กระดูกที่เหลือมาทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากก่อเหตุเสร็จตอนเช้ามาทำงานตามปกติจนมีญาติของผู้ตายเดินทางมาแจ้งความว่ามีคนหาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกมาสอบปากคำตลอดทั้งวัน จนผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง สาเหตุเกิดจากความหึงหวงผู้ตาย จึงได้มีการทะเลาะกันและไม่มีเจตนาที่จะฆ่าให้ตาย ตนยอมรับผิดในสิ่งที่ก่อ
หลังจากสอบปากคำทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดเผาตรงบริเวณจุดเกิดเหตุ และนำตัวไปชี้จุดที่นำกระดูกบางส่วนไปทิ้งไว้ที่กลางแม่น้ำ และจะต้องนำตัวไปทำแผนยังจุดบริเวณที่ก่อเหตุภายในบ้านพัก ตำรวจ เบื้องต้น แจ้งข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และซ่อนเร้นอำพรางศพ หรือย้ายศพ ส่วนกระดูกที่พบจะส่งตรวจดีเอ็นเอกับนางภาวิณีย์ สุภศรี อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นแม่ว่าตรงกันหรือไม่อีกครั้ง เพื่อยืนยันชิ้นส่วนที่พบ
ทางด้าน น.ส สุฑามาศ เฉยนก อายุ 26 ปี ลูกน้องของผู้ตายกล่าวว่า เมื่อคืนวันเกิดเหตุตนเองและผู้ตายได้เปิดร้านยำ จากนั้นได้เก็บร้านแล้วเดินทางกลับมาที่บ้านพักเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 11 มี.ค. จากนั้นตนเองได้นอนอยู่ข้างล่าง ส่วนผู้ตายได้นอนอยู่ข้างบน พอตอนช่วง 13.00 น.ตนเองตื่นขึ้นมาไม่พบผู้ตายลงมาปลุกจึงเอะใจ และเดินขึ้นไปดูกพบประตูห้องนอนปิดล็อกจึงได้แง้มหน้าต่างดูไม่เห็นผู้ตายอยู่ในห้อง แต่เห็นโทรศัพท์ กุญแจรถ และของใช้สำคัญอยู่ภายในห้อง ตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งญาติว่าผู้ตายว่าหายตัวไป จนเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ญาติของผู้ตายได้เดินทางมาที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมาแจ้งความคนหาย
ด้าน น.ส.ขนิษฐา เคร่งครัด อายุ 32 ปี น้องของผู้ตาย เผยด้วยน้ำตาว่า หลังจากทราบข่าวว่าพี่สาวหายได้เดินทางมาที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมาพบพนักงานสอบสวน จากนั้นตนเองสงสัย ส.ต.อ.ปิยะ เพราะตนเองได้สอบถามแล้วว่าพี่สาวหายไปไหน แต่ ส.ต.อ.ปิยะ บอกว่าไม่ทราบ แต่โดยปกติพี่สาวของตนเองเวลาออกไปไหนจะต้องนำโทรศัพท์ กุญแจรถและรถยนต์ไปด้วยทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ของทุกอย่างอยู่ครบหมด จึงแน่ใจว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายอย่างแน่นอน และก่อนหน้านี้ ส.ต.อ.ปิยะ ยังเคยทะเลาะกับพี่สาวของตนอยู่บ่อยครั้งถึงขั้นแจ้งความลงบันทึกประจำวัน แต่ก็ไกล่เกลี่ยกันมา
ล่าสุด ยังเคยพาตัวพี่สาวของตนไปที่อำเภอวังน้อย และใช้ปืนจ่อที่ศีรษะเพื่อจะยิงทิ้ง แต่พี่สาวของตนได้ขอร้องจนผู้ต้องหาไม่ก่อเหตุ ส่วนตนดีใจที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา และเป็นผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว และเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองไม่เชื่อว่า ผู้ต้องหาจะเป็นคน ใจร้ายถึงขั้นฆ่าคนตายได้ และยังเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย