พิษณุโลก - พ่อ แม่ พี่ ญาติทำใจไม่ได้ “น้องปอ” ถูกไอ้แม้ว ม.6 ฆ่าเผานั่งยางเหลือแต่เถ้ากระดูกกลางสวนยางฯ วังทอง ไม่เชื่ออำพรางศพคนเดียว ยืนยันไม่เคยกีดกันรัก ไม่เคยรับเงินแสน หมั้นกันแค่ทอง 1 บาทเท่านั้น
วันนี้ (10 มี.ค. 64) ญาติพี่น้องครอบครัวได้นำเถ้ากระดูกน้องปอ หรือ น.ส.จุฬารัตน์ กองแก้ว หญิงสาววัย 19 ปี บรรจุโลงศพตั้งบำเพ็ญกุศลตามศาสนาภายในบ้านเลขที่ 131/3 ม.25 บ้านน้ำริน ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก หลังถูกแฟนหนุ่ม คือ นายแม้ว อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.วังทอง ลงมือฆ่าบีบคอแล้วนำร่างใส่รถกระบะไปเผานั่งยางภายในสวนยางพารากลางป่าลึก
นายบรรดิษฐ์ กุนนะ อายุ 52 ปี พ่อของน้องปอ ได้จุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณของลูกสาวให้รับรู้และให้ไปสู่สุคติไปเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ ถึงแม้ว่าในใจจะเจ็บปวดเนื่องจากลูกสาวสุดที่รักถูกแฟนหนุ่มฆ่าเผานั่งยางอย่างโหดเหี้ยม จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดและให้ได้รับโทษประหารชีวิต ส่วนทางครอบครัวของฝั่งผู้ต้องหายังไม่ได้มาร่วมพิธี หรือติดต่อมาแต่อย่างใดและยังไม่มีการพูดคุยกัน โดยจะตั้งสวดพระอภิธรรม 2 คืน ก่อนจะนำกระดูกของน้องปอไปทำพิธีฌาปนกิจที่วัดป่าอรัญญาวาส
นายบรรดิษฐ์กล่าวว่า ตนและภรรยายังรู้สึกเสียใจมากที่ลูกถูกนายแม้ว แฟนหนุ่มฆ่าบีบคอจนเสียชีวิตแล้วนำศพไปเผาเพื่ออำพรางคดี และยังติดใจว่าขั้นตอนการนำศพไปเผานั้นเชื่อว่าต้องมีคนที่ช่วยเหลือในการนำศพไปเผาไม่ต่ำกว่า 3-4 คน เนื่องจากการเผากว่าจะไหม้จนเหลือแต่เถ้ากระดูกต้องใช้ยางรถยนต์หลายเส้น ต้องมีคนช่วยเหลือในการเผาจนเหลือแต่กระดูก ซึ่งอยากให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีด้วยความเป็นธรรมและหาผู้กระทำผิดเพิ่ม ซึ่งตนเองเชื่อว่าทำคนเดียวไม่ได้แน่นอน
ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกระแสข่าวที่ว่าทางญาติไปกดดันไม่ให้นายแม้วมารักใคร่กับลูกสาวตนเองอีกจนเป็นเหตุให้ก่อเหตุสะเทือนขวัญนั้น นายบรรดิษฐ์กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวไม่จริง เพราะว่านายแม้วเคยมาหมั้นลูกสาวของตนจริงด้วยทองคำหนัก 1 บาทเท่านั้น ไม่มีเงินแสนมาหมั้นแต่อย่างใด ทางครอบครัวก็ไม่ได้ต่อว่าและรอให้นายแม้วมาแต่งงานให้ถูกต้องอีกครั้ง ซึ่งรอมา 2-3 ปีก็ยังไม่มีวี่แววอะไร แต่ก็เห็นว่าลูกสาวตนและนายแม้วอยู่ด้วยกันไม่มีเรื่องอะไรกันมาก่อน เห็นว่ารักกันดีอยู่ จึงไม่ทราบว่าเหตุใดนายแม้วถึงก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกสาวจนถึงแก่เสียชีวิต ก็ไม่ทราบว่าจิตใจทำด้วยอะไร อยากให้มาขอขมาศพ แต่พ่อและแม่ไม่ให้อภัยอย่างแน่นอน
นางสาวพิมพ์ชนกพ์ กุนนะ พี่สาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ครอบครัวตนต้องมาสูญเสียน้องสาวไปโดยไม่มีลางบอกเหตุมาก่อน ตนและครอบครัวยังติดใจในการนำร่างของน้องสาวไปเผา น่าจะมีหลายคนที่ช่วยกัน อยากขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานด้วยความเที่ยงตรง นำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีเพิ่มเติม ส่วนผลการตรวจชันสูตรกระดูกของน้องสาวของตนเองนั้นทางแพทย์จะส่งมาที่บ้านในภายหลัง แต่ก็สามารถนำเถ้ากระดูกไปบำเพ็ญกุศลได้
นางดา ท้วมดำ อายุ 54 ปี ป้าของน้องปอ กล่าวด้วยความโศกเศร้าเสียใจว่า ตนเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เด็ก รู้จักนิสัยของน้องปอดีว่าเป็นคนขยัน เรียนจบชั้น ม.6 ก็อยากเรียนต่อ แต่เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจนจึงต้องตัดสินใจหยุดเรียนเอาไว้ก่อน
น้องปอได้พบรักกับแฟนหนุ่มและมีการหมั้นหมายกัน แต่ก็ต้องไปทำงานเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว ไม่เคยคิดมาก่อนว่าแฟนหนุ่มจะมีจิตใจโหดเหี้ยมลงมือฆ่าคนรักของตัวเองได้ คนในครอบครัวก็อยากให้ผู้ต้องหามากราบขอขมาศพเพื่อดวงวิญญาณของน้องปอจะได้ไปสู่สรวงสวรรค์ และอโหสิกรรมต่อกันในชาตินี้ เพราะอย่างไรทั้งคู่ก็เคยรักกันมาก
