ฉะเชิงเทรา - สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ปรับเวลาผลัดเปลี่ยนกำลังตำรวจสายตรวจในพื้นที่เฝ้าระหว่างจุดเสี่ยงต่างๆ ป้องกันนักเรียนอาชีวะ 2 สถาบันก่อเหตุเอาคืน หลังเกิดการปาระเบิดใส่กันจนมีนักเรียนเจ็บสาหัส 1 ราย ขณะที่ผู้บริหารอาชีวะ 2 สถาบันร่วมหาทางแก้
จากเหตุการณ์นักเรียนนักเลงเมืองแปดริ้วปาระเบิดใส่นักเรียนต่างสถาบันบริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟชุมทางฉะเชิงเทรา จนทำให้นักเรียนช่างกลโรงงาน ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณศีรษะ ส่วนเพื่อนนักเรียนอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งขณะนี้อาการนักเรียนช่างกลยังอยู่ในขั้นวิกฤต เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนนักเรียนต่างสถาบันซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุที่มีอายุระหว่าง 16-18 ปี รวม 11 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองแปดริ้ว ได้ขออำนาจศาลจังหวัดฉะเชิงเทราฝากขังระหว่างรอดำเนินคดีนั้น
วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการหามาตรการป้องกันการก่อเหตุซ้ำของนักเรียน 2 สถาบันว่า พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องจากเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุม 2 สภ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยมีตัวแทนจากสถาบันการศึกษาทั้ง 2 แห่งเข้าร่วม
ประกอบด้วย นายรุ่งเรือง สูยะนันทน์ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา และ นายประโลม วันทะนา ฝ่ายปกครองวิทยาลัย รวมทั้งนายไชยา ระกาศรี ผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคโนโลยีฉะเชิงเทรา และนายกัมพล แจ่มแจ้ง ฝ่ายปกครองวิทยาลัย นายวรวุฒิ สีมัดยก ตัวแทน กต.ตร.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา
โดยที่ประชุมได้กล่าวถึงปัจจัยสำคัญของการก่อเหตุทะเลาะวิวาทของนักเรียนต่างสถาบันว่า เกิดจากปัญหาเด็กหนีเรียน เด็กไม่มาเข้าเรียนแต่เดินทางออกจากบ้าน และเด็กมาเรียนสาย ตลอดจนการมั่วสุมตามแหล่งมั่วสุมหรือตามหอพักต่างๆ
ขณะที่วิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรามีนักศึกษากว่า 3,000 คน ที่อาจควบคุมได้ยากมากกว่าวิทยาลัยเทคโนโลยีฉะเชิงเทรา ที่มีนักศึกษาประมาณ 300 คน
ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารวิทยาลัยเทคโนโลยีฉะเชิงเทรา สถาบันการศึกษาของกลุ่มนักเรียนที่ก่อเหตุ ชี้แจงว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ปรับลดขบวนการเดินรถจึงทำให้นักเรียนทั้ง 2 สถาบันกลับบ้านในเวลาเดียวกัน ซึ่งหากเป็นช่วงปกติทั้ง 2 สถาบันจะปล่อยให้นักเรียนกลับบ้านในเวลาเหลื่อมกัน
จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นักเรียนทั้ง 2 สถาบันต้องขึ้นรถไฟขบวนเดียวกัน ขณะที่นักเรียนกลุ่มก่อเหตุเป็นกลุ่มที่ต้องเดินทางกลับบ้านโดยขบวนรถไฟ ซึ่งจะมีรถสองแถวประจำมารับออกจากหน้าวิทยาลัย จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นชนวนเหตุของการเขม่นกันระหว่างนักเรียน 2 สถาบัน
ด้าน พ.ต.ท.เตชทัต เนรุวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เผยถึงแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียนทะเลาะวิวาทกัน ในเบื้องต้น จะทำการขยับเวลาผลัดเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมง จากเดิมที่จะสับเปลี่ยนกำลังในเวลา 16.00 น. เป็นเวลา 15.00 น. เพื่อให้ทันกับช่วงเวลาเลิกเรียน
พร้อมจะให้นำกำลังสายตรวจรถยนต์และรถยนต์ของรอง ผกก.ป เข้าเสริมในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้มีกำลังเพียงพอในการเฝ้าระวังและตรวจตราจุดเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงได้อีก
เช่น บริเวณสถานีรถไฟ สถานีขนส่งผู้โดยสาร สวนสาธารณะ ด้านหน้าวิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา และวิทยาลัยเทคโนโลยีฉะเชิงเทรา รวมทั้งห้างสรรพสินค้าศูนย์เก่า (พลาซ่า)
