xs
xsm
sm
md
lg

สาววอนม็อบ! อย่าสร้างความเกลียดชังให้ ตร.ผุดแฮชแท็ก#savepolicetnailand ยัน ตร.จำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สาวตัดพ้อโพสต์ความลำบากของตำรวจที่มาปฏิบัติหน้าที่ควบคุมผู้ร่วมชุมนุม “กลุ่มเดินทะลุฟ้าคืนอำนาจประชาชน” ระบุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องปฏิบัติงานตามคำสั่ง วอนอย่ายั่วยุสร้างความเกลียดชังเลย และอย่าทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยันเจ้าหน้าที่ทุกคนอยากกลับบ้าน เพราะทุกคนก็มีครอบครัว ไม่มีใครอยากเสี่ยงอันตรายเหมือนกัน

จากกรณีที่มีผู้ร่วมชุมนุมซึ่งใช่ชื่อว่า “กลุ่มเดินทะลุฟ้าคืนอำนาจประชาชน” นำโดย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน และกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน หรือ เอ็นจีโอ ได้เริ่มตั้งขบวนม็อบ 6 มีนา มุ่งหน้า 5 จุด รอบกรุงเทพฯ มาก่อนหน้า ซึ่งวันนี้ (7 มี.ค.) ได้เดิน 15 กิโลเมตรสุดท้าย ในกรุงเทพมหานคร โดยจะเริ่มต้นจากแยก ม.เกษตรฯ และมีจุดพักกลางวันของวันนี้อยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนที่จะไปจบเส้นทางที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันนี้ (7 มี.ค.) เฟซบุ๊ก “Mint Monsicha” ได้โพสต์ระบุข้อความหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตกเป็นเหยื่อความรุนแรงและความเกลียดชังของผู้ร่วมชุมนุม ไม่มีตำรวจคนไหนอยากไปม็อบนะ #สรุปคนที่คุณมองเป็นศัตรู คือตำรวจสินะ หากยังแยกแยะไม่ออกว่าที่ทำ ตำรวจทำ มันคือการปฏิบัติหน้าที่ มันคือคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่แบบชอบด้วยกฎหมาย และเป็นไปตามอำนาจที่มันถูกต้อง คุณก็อย่าพูดว่าคุณจะปฏิรูปประเทศเลย คุณเข้าใจคำว่าหน้าที่มากน้อยแค่ไหน ไอ้พฤติกรรมยั่วยุ ที่คุณบอกว่าชุมนุมโดยสันติมันเรียกสันติแล้วเหรอ
- สาดสีใส่
- โปรยอาหารหมา
- ทำลายข้าวของทรัพย์สินของทางราชการ
- เยี่ยวใส่ตำรวจ

นี่หรือคือพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่จะมาผลักดันและเปลี่ยนแปลงประเทศ ไม่ได้อยากไป ครอบครัวตำรวจก็ไม่มีใครยินดีที่จะให้ตำรวจไป แต่ด้วยภาระ ด้วยหน้าที่ จำเป็นต้องมายืนตรงนี้ ไม่ว่าจะม็อบปีไหน พ.ศ. อะไร เหลือง แดง ตำรวจก็คือตำรวจ เลือกข้างไม่ได้ ต้องยืนตรงกลางระหว่างความขัดแย้ง ไอ้คำที่บอกว่า ลาออกแล้วมายืนข้างประชาชนสิ ไปเป็นขี้ข้าทำไม คิดกันได้แค่นี้เหรอคะ ถ้าคุณมีงานทำ มีพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดู มีลูก คุณจะลาออกเพื่อมาร่วมม็อบไหม ตัวคุณเองคุณเสียสละแค่ไหน ที่คุณจะมาสั่งคนอื่นว่าเขาควรลาออก หากทุกฝ่ายต่างก็ยืนในพื้นที่ของตัวเองไม่ล้ำเส้น ไม่มีใครไปทำอะไรคุณหรอก

ความรู้สึกพวกคุณบางคนที่มองตำรวจ คุณอาจจะมองว่าเขาเป็นหมารับใช้ เป็นขี้ข้า คุณมองเขาด้วยความเกลียด แต่สิ่งที่ครอบครัวตำรวจมอง แค่ภาวนาให้เขาปลอดภัย ในหนึ่งวันของภารกิจตำรวจที่ สภ สน และพื้นที่ต่างๆ ก็หนักหนาแล้ว ช่วงนี้ห้ามลา เพราะต้อง Standby รอสับเปลี่ยนกำลังพล เราเป็นอีกหนึ่งคน ที่ไม่ชอบรัฐบาลชุดนี้ แต่ที่เราไม่เข้าร่วมการชุมนุม เพราะเรามองว่าการกระทำพวกคุณ มันเริ่มออกทะเลแล้ว มันเกินขอบเขตสันติและเสรีภาพแล้ว การกระทำด้วยความเกลียดชัง ต่อตำรวจและองค์กรตำรวจ ไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนไปหรอกค่ะ ไม่เปลี่ยนเลยซักนิด คนที่เป็นตัวต้นเหตุแห่งปัญหา ยังกินข้าวอิ่ม มีเงินใช้ และยังนอนหลับในสภาแบบสบายใจอยู่

คุณมีอุดมการณ์ของคุณ คุณก็ทำไป คุณมีสิทธิ์เต็มที่ในฐานะที่คุณเป็นประชาชน แต่อย่าลืมว่าคุณเองควรเคารพคนอื่นเช่นกัน ตำรวจที่ยืนตรงหน้าคุณ ไม่น่ากลัวเท่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่โหยหาความรุนแรงหรอกค่ะ เพราะเขาคือบุคคลที่จะได้ประโยชน์หากเกิดความรุนแรงขึ้น ม็อบไหนๆ ก็มักจะมี #มือที่สาม เข้ามาสร้างสถานการณ์เสมอ และผลที่ได้คือตำรวจและประชาชนต้องเสียชีวิตมากมาย ทุกคนอยากกลับบ้าน อยากกลับมาทำงานในพื้นที่ของตัวเอง ไม่ใช่นอนที่วัด กินข้าวกล่องที่บางวันก็เกือบบูด บางคนลูกยังเล็ก บางคนแม่ป่วย แต่ลาไม่ได้ ไม่มีใครอยากมาอยู่ตรงนั้นเลย แต่เพราะหน้าที่ มันคือหน้าที่ หากลดอคติมองความจริงซักนิดแล้วดูว่าอะไรคือต้นเหตุที่ทำให้รุนแรง ทำให้เกิดการปะทะ แล้วจะเข้าใจ

สุดท้าย แล้วความเกลียดชัง ความรุนแรง เสียงก่นด่าและประณามหยามเหยียด ก็มีแค่ตำรวจชั้นผู้น้อยเท่านั้นล่ะที่มารองรับสิ่งเหล่านี้ โดนกระทำทั้งจากประชาชน ทั้งจากผู้บังคับบัญชา ความจริงในองค์กรที่ไม่มีใครเข้าใจ ก็ยังย้ำคำเดิมนะ ว่าไม่ได้อยากจะมา หากเลือกได้ขอปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ของตัวเองดีกว่า มายืนเป็นถังขยะอยู่ตรงนี้ เหนื่อย เอาเข้าจริงมันเหนื่อย แต่ทำได้แค่ถือโล่และยืนปฏิบัติหน้าที่เพราะหลักเลี่ยงไม่ได้

#savepolicetnailand
#saveครอบครัวตำรวจและเพื่อนตำรวจ
#saveประชาชน
#saveประชาธิปไตย
#saveประเทศไทย”

คลิกโพสต์ต้นฉบับ




กำลังโหลดความคิดเห็น