เชียงใหม่ - ฝุ่นควันเชียงใหม่หนักต่อเนื่อง ค่ามลพิษพุ่งครองอันดับ 1 โลกเหนียวแน่น เหตุยังพบเผาเพียบในประเทศเพื่อนบ้านและใกล้เคียง แถมกระแสลมหอบฝุ่นเข้ามาสะสม ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือชี้สภาพอากาศไม่อำนวย คาดต้องเผชิญสถานการณ์ย่ำแย่อีกนับสัปดาห์ เตือนประชาชนรักษาสุขภาพ
วันนี้ (9 มี.ค. ) รายงานข่าวแจ้งว่า สถานการณ์หมอกควันจากไฟป่า และการเผาในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ทวีควานรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง จากเว็บไซต์ https://www.iqair.com จัดอันดับเมืองที่มีค่ามลพิษในอากาศของโลกพบว่า เมื่อเวลา 07.00 น. จังหวัดเชียงใหม่ขึ้นมาอยู่ที่อันดับที่ 1 ของโลกหลายวันติดต่อกัน โดยวัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศได้ 195 USAQI ส่วนอันดับ 2 ของโลกคือเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน 182 USAQI
ขณะที่ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษของไทย จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศทั้ง 4 จุดของจังหวัดเชียงใหม่ วัดค่า PM 2.5 เมื่อเวลา 07.00น. ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ช้างเผือก อ.เมือง 113 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง 106 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ต.สุเทพ (ดอยสุเทพ) 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่ รพ.เทพรัตนฯ อ.แม่แจ่ม 88 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าสูงขึ้นต่อเนื่องของรอบปีนี้
ปัจจัยสำคัญมาจากพื้นที่ของฝั่งประเทศพม่า และในพื้นที่โดยรอบของจังหวัดเชียงใหม่ มีจุดความร้อนจากไฟป่าและการเผาจำนวนมาก ประกอบกับมีกระแสลมที่กำลังพัดพาควันไฟมาทางจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในช่วงนี้มีอากาศร้อนอบอ้าว จะทำให้ฝุ่นควันลอยมาสะสมตัวในอากาศ ส่งผลต่อคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ที่จะย่ำแย่รุนแรงต่อเนื่องในช่วงหลายวันนี้
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือรายงานว่า ในช่วงวันนี้ไปจนถึงประมาณ 1 สัปดาห์ข้างหน้าถือว่าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการแก้ไขปัญหาหมอกควันของภาคเเหนือ เนื่องจากกระแสลม รวมทั้งเรื่องของพายุฝนฟ้าคะนองหรือพายุฤดูร้อนยังไม่มีปัจจัยใดที่จะทำให้เกิด ส่วนคลื่นกระแสลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดผ่านก็เป็นลักษณะของลมอ่อนที่จะช่วยยกอากาศขึ้นได้บ้างในช่วงกลางวันและช่วงบ่ายเท่านั้น แต่ยังกดทับอยู่ในระดับความสูงที่ประมาณ 1,000 เมตรเท่านั้น ไม่ทำให้หมอกควันสลายตัวลงหรือลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศไปได้ ประกอบกับช่วงเช้า และตอนกลางคืนยังมีอากาศหนาวเย็นที่จะกดทับสภาพอากาศเหนือเมืองเชียงใหม่และภาคเหนือยิ่งทำให้ฝุ่นควันสะสมตัวหนาแน่นมากขึ้น ไม่สามาถลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศได้
ทั้งนี้ คาดว่าตลอดทั้งสัปดาห์ต่อจากนี้เชื่อว่าปัญหาหมอกควันในอากาศจะทวีความรุนแรงขึ้นได้ โดยได้ แจ้งเตือนประชาชนในภาคเหนือว่าต้องระวังรักษาสุขภาพ ป้องกันตนเองจากฝุ่นควันในอากาศที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นได้ สวมใส่หน้ากากอนามัยชนิดที่กันฝุ่น PM 2.5 ได้ ทุกครั้งที่อยู่นอกบ้านหรือนอกอาคาร เปิดเครื่องกรองอากาศหรือเครื่องปรับอากาศในอาคารก็จะช่วยให้ได้อากาศที่ดีขึ้นบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ ผู้หญิงตั้งครรภ์ และเด็กเล็ก ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ที่สำคัญต้องงดการเผาทุกชนิดในพื้นที่