ราชบุรี - ลุงสแกน 'เราชนะ' ไม่ผ่านไม่กล้าสั่งอาหาร พร้อมทั้งเอ่ยถามเจ้าของร้านว่ารับ "เราชนะ" หรือไม่ เนื่องจากเข้าระบบไม่ได้ ถึงลำบากแต่ไม่เสียสัจจะกลับมาจ่ายค่าอาหารตามสัญญา
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "chanidapha pamornsupuakul" โพสต์เกี่ยวกับเรื่องราวอันน่าประทับใจ หลังที่มีลุงกับป้าเข้ามาใน "ร้านตู้ก๋วยเตี๋ยว ราชบุรี" แต่ยังไม่กล้าสั่งอาหาร พร้อมทั้งเอ่ยถามเจ้าของร้านว่ารับ "เราชนะ" หรือไม่ เนื่องจากเข้าระบบไม่ได้ เพราะมือถือนั้นเก่ามาก ทำให้โฟกัสไม่ได้ จึงบอกให้ลุงกับป้าสั่งข้าวกินได้เลย ถ้าทำไม่ได้จะให้กินฟรี ไม่ต้องจ่ายเงิน ขณะที่ลุงกับป้า กลับตอบว่า จะมาใหม่แล้วจะนำเงินมาจ่ายค่าข้าวให้ จนชาวโซเชียลพากันชื่นชมในความใจดีของเจ้าของร้าน และความซื่อสัตย์ของลุงกับป้า พร้อมกับแชร์เรื่องราวออกไปเป็นจำนวนมาก ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด ลุงวีระ สุขเกษม อายุ 55 ปี ได้เดินทางมาที่ร้านตู้ก๋วยเตี๋ยว ราชบุรี เพื่อนำเงินค่าข้าวมาจ่ายที่ร้าน โดยที่เจ้าตัวนั้นยังไม่รู้ตัวว่า ตนเองนั้นกำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเรื่องราวกับทางลุงวีระ ทราบว่า วันนั้นลุงได้ขี่รถ จยย.มากับป้าเพ็ญจันทร์ สุขเกษม ภรรยา เพื่อตั้งใจจะมาลองสแกนใช้แอปไทยชนะ เพื่อซื้อของใช้ ข้าวสาร อาหารแห้ง เพราะไม่มีเงินซื้อ แต่ลองสแกนมา 4 ร้านแล้วยังไม่ได้ เพราะตนอยากจะซื้อของไปทำอาหารกินเอง
โดยมาตั้งแต่ 09.00-16.00 น.ก็ยังสแกนไม่ได้ จนตนกับป้าเริ่มหิวข้าว จนมาเจอร้านตู้ก๋วยเตี๋ยวราชบุรี จึงบอกกับทางร้านให้ลองสแกนก่อน เพราะตนไม่มีเงินสด แต่ก็สแกนไม่ได้ แต่ทางร้านก็ยินดีให้ตนกับป้ากินอาหารไปก่อน และตนบอกว่าเดี๋ยวมีเงินแล้วจะเอามาจ่ายให้ จนตนต้องมายืมเงินคนอื่น 2,000 บาท มาซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ถึงสแกนได้ จนได้เงินจึงรีบนำเงินมาจ่ายให้แก่ทางร้าน
ส่วนตนกับป้าได้สิทธิเราชนะทั้งคู่ แต่ป้าได้สิทธิก่อน ตนเพิ่งจะทำเรื่องไปน่าจะได้วันที่ 15 มี.ค. โดยเมื่อก่อนตนมีอาชีพผลิตหมอนรองรางรถไฟ อยู่ที่ ต.หินกอง แต่ช่วงผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้โรงงานที่ทำต้องหยุดไปเมื่อต้นเดือนกันยายน ทำให้ตนไม่มีงานและไม่มีเงิน ส่วนป้าเคยทำงานที่เดียวกันแต่ไม่ค่อยแข็งแรง แถมมีปัญหาเรื่องสายตา จึงต้องหยุดทำงานมา 3 ปีแล้ว
ส่วนวันนี้ที่ตนมาที่ร้านเพื่อจะนำเงินค่าอาหารที่ค้างไว้กับทางร้านมาจ่ายให้ตามสัญญาที่ให้ไว้ ตนไม่รู้ว่าเรื่องของตนกำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ดูข่าว ตอนนี้ตนประสบปัญหาหนักใจอย่างเดียวคือเรื่องผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งผ่อนเดือนละ 1,300 บาท พอเป็นข่าวมีคนเสนอจะซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้ตน บางคนจะให้เงินบ้าง แต่ตนเกรงใจไม่อยากเบียดเบียนคนอื่น แต่ในใจแค่อยากจะผ่อนมอเตอร์ไซค์ให้หมดอย่างเดียว ถ้าตัดปัญหาตรงนี้ออกไปได้จะโล่งใจมาก
ส่วนเรื่องของกิน ของใช้ตนยังพอจะมีหนทางหาได้ วันนี้ตนมาจะจ่ายเงินค่าอาหาร แต่ทางร้านไม่รับ แถมยังเลี้ยงข้าวอีกและยังให้นำอาหารกับไปฝากป้าที่บ้านด้วย ซึ่งถ้าเป็นร้านอื่นไม่รู้เขาจะดีแบบนี้ไหมเพราะช่วงโควิด-19 แบบนี้ใครก็แย่กันไปหมด แต่ร้านนี้เขาต้อนรับดีมาก จนตนตื้นตันใจที่เจ้าของร้านมีน้ำใจมาก ส่วนที่เสนอจะให้พื้นที่เพื่อมาขายของ ตนต้องขอไปปรึกษากับป้าก่อนเพราะลุงกับป้าไม่ถนัดขายของ ไม่เคยขายของมาก่อน และก็ไม่มีเงินทุนอีกด้วย
ขณะที่ น.ส.ชนิดาภา ภมรศุภกุล อายุ 30 ปี เจ้าของร้านเปิดเผยว่า วันนี้คุณลุงมาที่ร้าน ซึ่งคุณลุงบอกว่าตั้งใจจะกลับมาตามสัญญา เอาเงินมาจ่ายค่าอาหาร ลุงเกรงใจแต่ตนไม่ได้รับเพราะตั้งใจช่วยอยู่แล้ว และได้นั่งคุยกับคุณลุงว่าเป็นยังไง และทำอาชีพอะไร เพราะว่าวันนั้นไม่ได้มีเวลาคุยกัน ซึ่งวันนี้คุณลุงยังมาทานอาหารจะมาอุดหนุนที่ร้านอีก แต่ตนขอเลี้ยงอาหารคุณลุงอีกครั้ง และด้วยทางลุงไม่ได้ทำงานมานานแล้ว ส่วนป้าไม่ค่อยแข็งแรง ซึ่งทางตนได้เสนอให้พื้นที่คุณลุงกับคุณป้ามาขายของที่ร้านได้ แต่คุณลุงกับคุณป้ากับไม่ถนัดขายของ ประกอบกับไม่มีทุนอีกด้วย ตนจึงเสนอให้คุณป้ามาทำงานที่ร้าน ซึ่งคุณลุงบอกว่าจะไปสอบถามคุณป้าก่อน ซึ่งตนรู้สึกดีใจที่ได้ช่วยเหลือถือว่าเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ส่วนเรื่องแอปเราชนะ ตนอยากฝากว่าจริงๆแล้วแอปนี้มีประโยชน์ เท่าที่นั่งคุยกับลุงแอปเราชนะ สามารถช่วยคุณลุงได้เยอะ ตนคิดว่าโครงการตามที่รัฐบาลให้มันช่วยเขาได้เยอะจริงๆ แต่ต้องปรับการใช้งานกันหน่อย เพราะบางกลุ่มที่ยังไม่พร้อม ไม่เข้าใจ เข้าไม่ถึงในตรงนี้ ทางรัฐบาลต้องหาวิธีช่วยเหลือคนในกลุ่มนี้ให้มีทางเลือกมากกว่านี้ ซึ่งตนมองปัญหาแล้วอาจจะเป็นที่การสื่อสาร การเข้าใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สำหรับใครที่อยากให้การช่วยเหลือลุงวีระ สุขเกษม และคุณป้าเพ็ญจันทร์ สุขเกษม สามารถติดต่อสอบถามไปได้ที่เบอร์โทร.06-2682-5821