เชียงราย - เถ้าแก่คาร์แคร์ พร้อมคนดูแล..ขึ้นโรงพักแจ้งตำรวจเชียงแสน ดำเนินคดีกู้ภัยกร่าง แค่โพสต์เตือนให้ลดเสียงเพลงที่เปิดดังสนั่นกลางดึก กลับถูกยกพวกขับรถตู้เปิดไซเรนเข้ารุมถล่มจนหน้าบวมปูด-หัวแตก วงจรปิดจับภาพชัด
วันนี้ (14 ก.พ. 64) นายสิทธิโชค ภูมิตัน อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 171/4 หมู่ 1 ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย และนายกิตติพันธ์ สุนันต๊ะ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 26 หมู่ 2 ต.เตาปูน อ.สอง จ.แพร่ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.ประสงค์ สมพรประเสริฐ พงส.เวร สภ.เชียงแสน ว่าได้ถูกทำร้ายร่างกาย โดยทั้งคู่มีรอยบวมที่ใบหน้า ศีรษะและท้ายทอย โดยใต้ใบหูด้านซ้ายของนายสิทธิโชคเป็นบาดแผลเย็บ 2 เข็ม
ทั้งคู่ให้การว่า นายสิทธิโชคได้เปิดกิจการรับล้าง อัด ฉีดรถยนต์ หรือคาร์แคร์ และร้านอาหารอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาเชียงแสน หมู่ 8 ต.เวียง อ.เชียงแสน โดยให้นายกิตติพันธ์เป็นคนดูแล ปกติร้านจะเปิดตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. ส่วนปั๊มน้ำมันจะเปิดตั้งแต่เวลา 05.00-21.00 น.
ต่อมาเวลา 22.30 น.คืนที่ผ่านมา (13 ก.พ.) นายสิทธิโชคได้เดินทางจากบ้านในตัวเมืองเชียงรายไปถึงร้านเพื่อพูดคุยกับนายกิตติพันธ์ที่ได้ปิดร้านแล้ว ทราบว่านายกิตติพันธ์เพิ่งโพสต์ข้อความลงในเพจ “กลุ่มข่าวชาวเชียงราย” มีเนื้อหาว่า ในเวลา 22.25 น.คืนเดียวกันนี้มีคนเปิดเพลงดังออกมาจากบริเวณที่ตั้งหน่วยกู้ภัยแห่งหนึ่ง และอยู่ไม่ไกลจากปั๊มน้ำมันมากนัก จึงขอให้ลดเสียงลงเพราะอาจไปรบกวนผู้อื่น รวมทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือมูลนิธิฯ ต้นสังกัดช่วยตรวจสอบด้วย
ทั้งคู่ให้การอีกว่า หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่ก็ได้มีกลุ่มคนทั้งชายและหญิงหลายคนสวมเสื้อกู้ภัยของมูลนิธิฯ บางคนขับรถตู้ติดป้ายมูลนิธิเปิดสัญญานไซเรน บางคนขี่จักรยานยนต์ บางคนก็เดินมาที่ร้านแล้วสอบถามหาคนโพสต์ข้อความดังกล่าว ซึ่งนายสิทธิโชคได้ออกรับหน้าแทนว่าเป็นคนโพสต์เอง กลุ่มคนดังกล่าวก็อ้างว่าข้อความที่โพสต์ทำให้พวกตนเสียหายและยังไม่ถึงเวลาในการปิดเสียง จากนั้นก็รุมชกต่อยนายสิทธิโชค และนายกิตติพันธ์จนได้รับบาดเจ็บ พร้อมตะโกนด่าก่อนออกจากร้านไป
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดถูกกล้องวงจรปิดและกล้องจากโทรศัพท์มือถือของคนภายในร้านบันทึกเอาไว้ได้ ขณะที่ทั้งคู่ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักหรือทะเลาะวิวาทกับกลุ่มคนดังกล่าวมาก่อน ดังนั้นจึงแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินคดีต่อกลุ่มคนดังกล่าวในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน
เบื้องต้น ร.ต.อ.ประสงค์ได้สอบปากคำและรับเป็นคดีก่อนแจ้งผู้บังคับบัญชาให้ได้รับทราบ ก่อนที่ชุดสืบสวนจะลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและตรวจดูหลักฐานต่างๆ ที่ทั้งคู่นำไปแจ้งความ เพื่อเรียกสอบปากคำกลุ่มคนดังกล่าวตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป