เชียงราย – เผยผลปฏิบัติการพิทักษ์ล้านนา จนท.สนธิกำลังค้น 661 จุดเป้าหมาย 8 จว.ภาคเหนือตอนบน ขยายผลคดียาเสพติดรายใหญ่ จับผู้ต้องหาเกือบ 3,000 คน ยึดอายัดทรัพย์เรียบ 140 ล้านทั้งรถ-บ้าน-ที่ดิน-รีสอร์ต-ฟาร์มปศุสัตว์-บัญชีธนาคาร
ความคืบหน้า กรณีตำรวจ ร่วมกับทหาร ฝ่ายปกครอง สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) สนธิกำลังกันกว่า 2,350 นาย เปิดปฏิบัติการ “พิทักษ์ล้านนา” ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 661 จุดในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เพื่อการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญ ตัดเส้นทางลำเลียงยาเสพติด ขยายผล ยึดทรัพย์ และเก็บหลักฐาน ตั้งแต่เช้ามืดที่ผ่านมา(11 ก.พ.64)
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้แถลงผลการปฏิบัติการว่าพื้นที่ภาคเหนือตอนบนมีคดีใหญ่เกี่ยวกับยาเสพติดหลายครั้ง โดยวันที่ 2 เม.ย.2561 เจ้าหน้าที่ยึดยาบ้าได้จำนวน 9.4 ล้านเม็ด ยาไอซ์น้ำหนัก 599 กิโลการัมเคตามีน 189 กิโลกรัม รถยนต์ 3 คัน ได้บริเวณหมู่ 8 ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ต่อมามีการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 5 คนจากผู้ที่ถูกออกหมายจับกว่า 20 คน , 24 เม.ย.มีคนร้ายซุ่มยิงรถของนายทวีศักดิ์ ยอดมณีบรรพต กำนัน ต.ปอ อ.เวียงแก่น จนภรรยาและบุตรเสียชีวิตเหตุเกิดพื้นที่ ต.ปอ มีการออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน
นอกจากนี้ตั้งแต่ปี 2561-2563 เกิดคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ถึง 12 คดี และที่เกี่ยวข้องกับยุทธการพิทักษ์ล้านนาจำนวน 4 คดีคือ การยึดยาบ้า 6 ล้านเม็ดบนรถยนต์บรรทุกที่ด่านตรวจห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ออกหมายจับผู้ต้องหา 7 คน จับผู้ต้องหาได้ 2 คน และหนีหมายจับอยู่ 5 คน , วันที่ 21 ก.ย.2563 ยึดยาบ้า 6.7 ล้านเม็ด เคตามีน 100 กิโลกรัม บนรถยนต์พื้นที่บ้านร่องห้า ต.สถาน อ.เชียงของ จ.เชียงราย จับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย , วันที่ 22 ก.ย.2563 ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คนพร้อมยาบ้า 6 ล้านเม็ด และวันที่ 29 ธ.ค.2563 ยึดยาบ้าได้ 6.42 ล้านเม็ด บนรถยนต์ที่จอดในโกดังเขต ต.แม่ลอย อ.เทิง จ.เชียงราย ออกหมายจับ 5 คน จับกุม 1 คน
ซึ่งจากการขยายผลเชื่อว่าขบวนการค้ายาเสพติด ลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาทางชายแดนไทย-สปป.ลาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และ อ.ภูซาง จ.พะเยา รวมทั้ง อ.เมือง จ.น่าน เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนและออกหมายจับผู้ต้องหาเอาไว้หลายราย
และหลังจากดำเนินยุทธการพิทักษ์ล้านนาระหว่างวันที่ 1-11 ก.พ.นี้ ได้กำหนดเป้าหมายทั้งสิ้น 661 เป้าหมาย ใช้กำลังพล 2,356 นาย สามารถยึดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ 5 ราย มูลค่า 132,278,500 บาท โดยเฉพาะทรัพย์สินของนายไพบูลย์ แซ่ว่าง ผู้ตองหาตามหมายจับคดีที่ จ.แพร่ มีทั้งรีสอร์ตเนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน 84 ตารางวา สวนยางพาราเนื้อที่ 4 ไร่ 2 งาน 68 ตารางวาที่ ต.สบปง อ.ภูซาง ที่นาเนื้อที่ 7 ไร่ 1 งาน 97 ตารางวาที่ อ.เทิง บ้านพร้อมที่ดิน-ฟาร์มปศุสัตว์ที่ จ.น่าน รถจักรยานยนต์ 3 คัน รวมมูลค่าถึง 46,264,000 บาท
นอกจากนี้ยังตรวจยึดทรัพย์นายนันทพันธ์ พรหมชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จ.เชียงราย คดียาบ้า 1.2 ล้านเม็ดเมื่อวันที่ 10 ต.ค.พื้นที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นรีสอร์ตพื้นที่ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เนื้อที่ 50 ไร่ มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท , ยึดทรัพย์ของนางพรรณี จอมคำ และนายพงษ์เดช จอมคำ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.ลำพูน ในคดียาบ้า 200,000 เม็ด เป็นที่ดินหลายพื้นที่รวม 96 ไร่ มูลค่าประมาณ 35 ล้านบาท
ยึดทรัพย์นายชุมพล ยอดมณีบรรพต ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.เทิง คดียาบ้า 9.8 ล้านเม็ด เป็นอสังหาริมทรัพย์ใน อ.เวียงแก่น เนื้อที่ 200 ไร่ มูลค่า 20 ล้านบาท , ยึดทรัพย์ของนายณัฐยศ แซ่ว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับ จ.แพร่ คดียาบ้า 6 ล้านเม็ดเมื่อวันที่ 31 ก.ค.2563 เป็นบัญชีธนาคารและอื่นๆ รวม 7 รายการมูลค่า 744,500 บาท และยึดรัพย์นายภูสิทธิ์ แซ่ว่า บิดาของนายณัฐยศ อีก 270,000 บาทด้วย
ขณะที่ตลอดยุทธการพิทักษ์ล้านนา เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาได้รวมกันทั้งสิ้น 2,621 ราย ผู้ต้องหา 2,582 คน แยกเป็นคดียาเสพติด 1,763 ราย ผู้ต้องหา 1,725 คน ของกลางยาบ้า 208,303 เม็ด ไอซ์น้ำหนัก 1.1 กิโลกรัม กัญชาแห้ง 1.2 กิโลกรัม กัญชาสด 106 ต้น เฮโรอีน 0.31 กิโลกรัม ยึดอายัดทรัพย์สินได้ 30 รายมูลค่ารวม 140,339,166 บาท เป็นทั้งที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ทองคำรูปพรรณ รถยนต์ จักรยานยนต์ เงินสด สมุดเงินฝาก ฯลฯ นอกจากนี้ยังถือโอกาสจับกุมคดีอาชญากรรมได้อีก 858 ราย ผู้ต้องหา 857 คน อาวุธปืน 104 กระบอก เครื่องกระสุน 123 นัด และอื่นๆ อีกหลายรายการ
พล.ต.อ.มนู กล่าวว่าแท้จริงแล้วภาพรวมสถิติยาเสพติดลดลง ขบวนการค้ายาเสพติดเลี่ยงไปขนเข้าเส้นทางอื่นเพราะเจ้าหน้าที่บูรณาการกันสกัดกั้นอย่างเข้มแข็ง ส่วนการเก็บเก็บตัวอย่างสารพันธุ์กรรม (DNA) ในกลุ่มบุคคลเป้าหมายใน อ.เวียงแก่น จำนวน 106 ราย นั้นก็เพื่อใช้ขยายผลในอนาคตหากตรวจยึดยาเสพติดได้ก็สามารถนำไปเปรียบเทียบและสามารถขยายไปถึงเครือญาติทำให้ยืนยันตัวบุคคลได้.