กาฬสินธุ์ - สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 5 จังหวัดขอนแก่นตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ดร.ภูผาภูมิ โมรีย์ เหตุหลอกชาวบ้านสวมสิทธิคนละครึ่ง ผลสอบเบื้องต้นทำผิดจริง ล่าสุดส่งตัวไปศาลจังหวัดขอนแก่น ชี้หากศาลตัดสินผิดจริงถึงขั้นไล่ออก
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 5 จังหวัดขอนแก่น นายยงยุทธ พรหมแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 5 จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง กรณี ดร.ภูผาภูมิ โมรีย์ ได้หลอกชาวบ้านเพื่อสวมสิทธิโครงการเยียวยาโควิด-19 จากรัฐบาล จากการสอบสวน พบว่า ดร.ภูผาภูมิ โมรีย์ กระทำผิดจริง มีโทษสูงสุดถึงขั้นให้ออกจากราชการ
เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามมาตรา 30 ตามประมวลกฎหมายอาญา ผู้ที่ถูกลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงกรณีกระทำผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก ถือว่าเป็นบุคคลผู้ขาดคุณสมบัติทั่วไปในการเข้ารับราชการตามมาตรา 30 ต้องได้รับการยกเว้นคุณสมบัติจาก ก.พ. หรือได้รับการล้างมลทินตามกฎหมายเสียก่อนจึงจะขอบรรจุกลับเข้ารับราชการได้ แต่ส่วนราชการจะบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการอีกหรือไม่เป็นดุลพินิจของผู้มีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 52 ที่จะพิจารณา
ด้านนายยงยุทธ พรหมแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 5 ขอนแก่น เปิดเผยว่า ดร.ภูผาภูมิ โมรีย์ ผู้ถูกกล่าวหานั้นมีความผิดอย่างร้ายแรง ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้จัดตั้งคณะกรรมการสอบวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งมีโทษให้พักราชการ หรือออกจากราชการ เป็นผู้มีอำนาจที่สามารถสั่งได้ตามกฎหมายอาญามาตรา 53 ซึ่งตอนนี้ในพื้นที่ศึกษาธิการจังหวัดเป็นผู้สั่งการลงมา
หลังจากตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงน่าจะพักราชการไว้ก่อน ถ้าเกิดคดีสิ้นสุดทางอาญาแล้วตามมาตรา 30 ก็ต้องให้ครูภูผาภูมิออกจากราชการตามกฎหมาย ในฐานะที่ตนเป็นข้าราชการก็มองว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการฉ้อโกงและขาดคุณสมบัติตามมาตรา 30 สุดท้ายแล้วก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ในช่วงเที่ยงของวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งตัว ดร.ภูผาภูมิไปฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่นเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนทางด้านครูฝนเนื่องจากได้เดินทางมาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการตั้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นและปล่อยตัวไป และจะมีการเรียกสอบปากคำอีกครั้งต่อไป