xs
xsm
sm
md
lg

โผล่แล้ว! ตัวการหลอกชาวบ้านสวมสิทธิคนละครึ่งเป็นถึง ดร. สอนอยู่ ร.ร.บ้านหนองผือ อ.หนองเรือ ขอนแก่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวขอนแก่น - โผล่แล้ว! ตัวการโกงเงินรัฐ หลอกนำบัตรประชาชนชาวบ้านสวมสิทธิโครงการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกันเป็นถึง “ดอกเตอร์” สอนอยู่โรงเรียนหนองผือ อ.หนองเรือ รุดเจรจาไม่ให้ผู้เสียหายแจ้งความแลกกับเงินคนละ 2,000 บาท อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะชาวบ้านเสียงแตก ส่วนหนึ่งยอมรับเงื่อนไข อีกส่วนจะแจ้งความเอาผิดตามกฎหมาย


จากกรณีมีผู้สูงอายุในหมู่บ้านโนนค้อ ต.โคกงาม อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ออกมาร้องเรียนถูกขบวนการมิจฉาชีพหลอกนำบัตรประชาชนไปลงทะเบียนสวมสิทธิโครงการช่วยเหลือของรัฐบาลทั้งโครงการคนละครึ่ง และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน แลกกับเงินสดให้แก่เจ้าของบัตร 200 บาท/คน โดยมีครูในท้องถิ่นรายหนึ่งเป็นผู้ประสานงาน ครูรายนี้จะอ้างกับชาวบ้านว่าเป็นการช่วยเหลือจากรัฐบาลสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่ได้ใช้สิทธิทั้ง 2 โครงการฯ

ขณะนี้มีชาวบ้านโนนค้อ ต.โคกงาม และอีกหลายตำบลใน อ.บ้านฝาง ขอนแก่น ได้ทยอยแจ้งชื่อต่อผู้ใหญ่บ้านเพื่อยืนยันว่าพวกเขาเป็นผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มขบวนการหลอกนำบัตรประชาชนไปลงทะเบียนโครงการช่วยเหลือของรัฐบาลเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา และบางส่วนได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อตำรวจไปแล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. คืนที่ผ่านมา (4 ก.พ.) ดร.ภูผา ข้าราชการครู สอนอยู่โรงเรียนบ้านหนองผือ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ได้เดินทางมาที่ศาลากลางหมู่บ้านโนนฆ้อง หมู่ 2 ต.โคกงาม อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น เพื่อขอเจรจากับชาวบ้านผู้เสียหาย ต่อรองขอชดเชยกรณีที่ได้ใช้สิทธิคนละครึ่งและสิทธิเราเที่ยวด้วยกันของชาวบ้าน โดยมีกำนัน สุธน นุบาล กำนันตำบลโคกงาม และผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวกลางในการเจรจา มีชาวบ้านเข้าร่วมประมาณ 50 คน

การเจรจาครั้งนี้ทาง ดร.ภูผายอมรับผิดว่าได้สวมสิทธิโครงการทั้ง 2 โครงการของชาวบ้านจริง โดยโครงการคนละครึ่งที่ทำการสวมสิทธิไปนั้นนำสิทธิไปกดซื้อสินค้ามาขายอีกทอดหนึ่งเพื่อจะได้เป็นเงินสด ส่วนโครงการเราเที่ยวด้วยกันนั้น ทาง ดร.ภูผาไม่ได้บอกกับชาวบ้านว่านำไปใช้ที่ไหนและใช้เพื่ออะไร

หลังจากการชี้แจงเจรจาขอโทษชาวบ้านแล้ว ดร.ภูผาก็ได้มีการเสนอเงินจำนวน 2,000 บาทเป็นค่าชดเชยให้แก่ชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหาย แต่มีข้อแม้ว่าต้องยอมความ ไม่แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่แจ้งนักข่าว อีกทั้งวันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 นี้จะลงพื้นที่มาสอนชาวบ้านสมัครแอปฯ เป๋าตัง และสแกนหน้าให้ชาวบ้าน และสอนลงทะเบียนโครงการเราชนะที่ทางรัฐบาลแจกเงินสนับสนุนจำนวน 7,000 บาท

ในส่วนของคุณครูฝน หรือคนที่เป็นตัวกลางตระเวนขอบัตรประชาชนของชาวบ้านไปนั้น ได้รับการว่าจ้างจาก ดร.ภูผามาอีกที โดยให้ไปเอาบัตรประชาชนจากชาวบ้านและให้เงินชาวบ้านเป็นจำนวน 400 บาท แต่ทางครูฝนนั้นได้ให้ชาวบ้านเพียงแค่ 200 บาท และอีก 200 บาทนั้นได้เข้ากระเป๋าตัวเอง


อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า หลังจากเจรจากับชาวบ้าน เสียงของชาวบ้านได้แตกออกเป็น 2 กลุ่ม มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการชดเชยด้วยเงิน 2,000 บาท ทั้งโครงการคนละครึ่ง และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ชาวบ้านในส่วนที่เห็นด้วยมองว่าโครงการคนละครึ่งนั้นให้ทาง ดร.ภูผาชดเชยมาจำนวน 2,000 บาทก็ถือว่าจบสิ้น และโครงการเราเที่ยวด้วยกันนั้นชาวบ้านที่เห็นด้วยมองว่าผู้เสียหายเป็นผู้สูงวัยและไม่ได้ไปเที่ยวไหน จึงไม่ได้ติดใจเกี่ยวกับโครงการนี้

ส่วนกลุ่มชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยกับการชดเชยก็มองว่าสิทธิดังกล่าวเป็นสิทธิของชาวบ้านเองและทำอย่างนี้เข้าข่ายฉ้อโกง จึงไม่ยอมรับการชดเชยเงินจำนวน 2,000 บาทที่ ดร.ภูผาได้ยื่นข้อเสนอมา ทำให้การประชุมครั้งนี้ยังไม่มีข้อสรุป

ด้านกำนัน สุธน นุบาล กำนันตำบลโคกงาม อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ซึ่งอยู่ในที่ประชุมต่อรองครั้งนี้ด้วย ได้พยายามพูดคุยกับทางชาวบ้านว่าไม่อยากให้ชาวบ้านยอมความเรื่องดังกล่าวง่ายๆ อยากให้ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อไม่ให้ใครฉกฉวยโอกาสหาประโยชน์จากโครงการของรัฐโดยหลอกลวงชาวบ้านเจ้าของสิทธิเพื่อประโยชน์ของตัวเอง อยากให้เป็นอุทาหรณ์ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก


กำลังโหลดความคิดเห็น