บุรีรัมย์ - เต็นท์รถมือสอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ โร่นำหลักฐานเข้าพบตำรวจ ยันไม่ได้โกง หลังสองผัวเมียแจ้งความกล่าวหาซื้อกระบะมือสองเป็นเงินสด 130,000 บาท แต่ขับได้เกือบปีกลับถูกไฟแนนซ์ตามยึด เจ้าของเต็นท์เผยให้คู่มือและชุดโอนลอยตั้งแต่วันรับรถ แต่ผ่านไป 3 เดือนนำคู่มือรถมาขอให้ช่วยรีไฟแนนซ์เพราะเดือดร้อนเงิน วอนให้ความเป็นธรรมด้วย
วันนี้ (31 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสุธิดา ธีรสุวรรณ์ เจ้าของเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานสัญญาซื้อขายรถยนต์และสัญญาการกู้ยืมเงินเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.นางรอง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ หลังจากนายสมร และนางจร สินชัยยา ชาว อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.นางรอง กล่าวหาว่า นางสุธิดาฉ้อโกง กรณีที่สองสามีภรรยาได้มาซื้อรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สตราด้า ทะเบียน บล 1763 นครราชสีมา เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2562 โดยจ่ายเป็นเงินสดจำนวน 130,000 บาท โดยสองสามีภรรยาอ้างว่าไม่ได้เอกสารคู่มือรถไปด้วยแต่นัดให้มารับวันหลัง จากนั้นนำรถไปขับตามปกติได้เกือบปี จู่ๆ มีไฟแนนซ์มาตามยึดรถทางสองสามีภรรยาจึงได้เข้าแจ้งความให้เอาผิดทางเต็นท์เพราะเชื่อว่ามีพฤติกรรมฉ้อโกง
นางสุธิดา เจ้าของเต็นท์รถมือสองยืนยันว่าไม่ได้ฉ้อโกงตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2562 สองสามีภรรยาได้มาซื้อรถที่เต็นท์จริง โดยลูกค้าได้จ่ายเป็นเงินสด 130,000 บาท มีการทำสัญญาซื้อขายไว้เป็นหลักฐานด้วย พอเซ็นสัญญาซื้อขายเรียบร้อยตนได้มอบคู่มือรถพร้อมเอกสารโอนลอยให้ไปด้วยในวันนั้นเลย ไม่ได้ยื้อหรือนัดให้มารับวันหลังตามที่คู่กรณีกล่าวอ้าง อยากให้นึกถึงความเป็นจริงด้วยว่าใครที่ซื้อรถแล้วจ่ายเงินสดแล้วจะปล่อยให้ผ่านไปเป็นเดือนหรือเป็นปีถึงจะมารับคู่มือ ต้องอยากได้คู่มือไปวันที่จ่ายเงินเสร็จอยู่แล้ว
แต่หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือน นางจร และสามีได้ถือคู่มือรถพร้อมชุดโอนลอยชุดเดิมกลับมาที่เต็นท์ บอกว่าเดือดร้อนจำเป็นต้องใช้เงินมาขอให้ตนเองช่วยรีไฟแนนซ์ แต่พอตนดูเอกสารแล้วนางจร ยังไม่ได้ทำการโอนรถเป็นชื่อของตัวเองยังเป็นชื่อของบริษัทไฟแนนซ์ ซึ่งอยู่ที่ จ.นครราชสีมา ที่เซ็นโอนลอยไว้อยู่เลย ตนจึงแนะนำให้นางจร ไปทำเรื่องโอนรถให้เรียบร้อยก่อน แต่นางจร บอกว่าจำเป็นต้องใช้เงินด่วนขอยืมเงินตนก่อน 10,000 บาท ตอนแรกปฏิเสธเพราะไม่ได้สนิทสนมกันแต่นางจร คะยั้นคะยอขอให้ช่วยด้วยความสงสารและเห็นว่าเป็นลูกค้าจึงตกลงให้ยืม 7,000 บาท แต่ให้เซ็นสัญญากู้ยืมไว้เป็นหลักฐาน เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2562
หลังจากนั้น ได้นำชุดโอนลอยไปโอนเป็นชื่อลูกสาวไว้ก่อนเพราะกลัวเอกสารจะหมดอายุ แต่ช่วงที่ประสบปัญหาวิกฤตโควิด-19 รถมือสองขายไม่ออกไม่มีเงินหมุนที่เต็นท์ จึงบอกนางจร ว่าจะขอเอาเล่มรถไปกู้เงินกับบริษัทเงินด่วนเพื่อนำเงินมาหมุน ซึ่งนางจร รับรู้และยินยอมเพราะตอนนั้นนางจร ยังไม่มีเงินที่ยืมไปมาคืนให้ แต่พอเจอปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อเนื่องจึงค้างส่งงวดบริษัทเงินด่วนประมาณ 3 เดือน แต่ไปทำเรื่องขอผ่อนผันไว้แล้ว คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งมาทราบทีหลังตอนที่นางจร ไปแจ้งความว่าตนเองฉ้อโกงซื้อรถเงินสดแล้วไม่ได้เอกสาร ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงและขอความเป็นธรรมด้วย
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามจร และสามีที่บ้าน ยืนยันว่าได้ซื้อรถจากเต็นท์นางสุธิดา แล้วจ่ายเงินเป็นสดจริงแต่กลับไม่ได้รับเล่มหรือชุดโอน ทางเต็นท์บ่ายเบี่ยงอ้างติดโน่นติดนี่ตลอด จนจู่ๆ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา มีคนมาบอกว่าเป็นพนักงานไฟแนนซ์มาทำการยึดรถเพราะรถค้างค่างวด งงและตกใจมากเพราะตนจ่ายเงินสดไปแล้วทำไมถึงมีงวดค้าง จึงเชื่อว่าทางเต็นท์น่าจะฉ้อโกงด้วยการนำรถไปจำนำต่อ จึงได้ไปแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อทางเต็นท์
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ให้ทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยไกล่เกลี่ยกัน แต่หากไม่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้จะดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายต่อไป