เชียงราย - ชาวบ้านและญาติมิตรครอบครัวน้องบ็อบบี้..แห่ดูหน้ามือฆ่าเด็กม้งวัย 7 ขวบดับคาดงกล้วย ระหว่างตำรวจคุมตัวชี้จุดสังหารโหด หลังให้การสั่งยืนรอเอาไม้มาทุบ พ่อลั่นไม่มีวันอโหสิกรรมให้เด็ดขาด
วันนี้ (23 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีตำรวจ จ.เชียงราย ติดตามจับกุมนายสินชัย เกษตรโสภาพันธ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 206 บ้านป่าสักงาม (เวียงคำฟ้า) หมู่ 9 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง ผู้ต้องหาที่ใช้ท่อนไม้ตี ด.ช.ธนโชต แปงเรือน หรือน้องบ็อบบี้ อายุ 7 ขวบจนเสียชีวิตภายในดงกล้วยพื้นที่บ้านใหม่มหาวัน หมู่ 12 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง
ล่าสุด พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ ยศแผ่น รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย นำคณะพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำผู้ต้องหาภายในศูนย์ปฏิบัติการสืบสวนสอบสวน สภ.เวียงเชียงรุ้ง ทั้งประวัติส่วนตัว บาดแผลที่ถูกหนังสติ๊กยิงบริเวณหน้าอก 1 รอย มูลเหตุจูงใจที่กระทำต่อเด็กอายุเพียงแค่ 7 ขวบ และการหลบหนีไปหลังก่อเหตุแล้ว เพื่อบันทึกลงในสำนวนอย่างเป็นทางการอีกครั้งก่อนทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
โดยนายสินชัยให้การรับสารภาพแต่โดยดีว่าอาศัยอยู่ในบ้านที่ห่างจากบ้านของนายทรงวุฒิ แปงเรือน อายุ 30 ปีบิดาของน้องบ็อบบี้เพียงประมาณ 30 เมตร และในอดีตเคยก่อเหตุจนถูกดำเนินคดีมาแล้ว 3 ครั้ง คดีแรกก่อเหตุเมื่ออายุได้เพียง 17 ปี จากนั้นก็เข้าออกเรือนจำหลายครั้ง กรณีน้องบ็อบบี้ถือเป็นครั้งที่ 4
ผู้ต้องหาระบุด้วยว่า ลงมือก่อเหตุฆ่า ด.ช.ธนโชต เนื่องจากแค้นสะสมจากการที่กลุ่มเด็กๆ มักจะไปเล่นที่บ้านของตนแล้ว ทำลายข้าวของ รื้อที่นอน ลักกินผลไม้ ฯลฯ กระทั่งวันเกิดเหตุคือ วันที่ 16 ม.ค.ได้ชวนกันไปใช้หนังสติ๊กยิงนกที่ดงกล้วยบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าว ปรากฏว่า ด.ช.ธนโชต ยิงหนังสติ๊กพลาดโดนหน้าอกตน จึงบันดาลโทสะตะโกนให้น้องบ็อบบี้รออยู่ตรงจุดที่ยิงหนังสติ๊ก จากนั้นได้เดินไปที่โรงนาของชาวบ้านที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร คว้าเอาท่อนฟืนในโรงนาทุบตีน้องบ็อบบี้หลายครั้งจนแน่นิ่งไปแล้วหลบหนี
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พบคำให้การที่มีพิรุธและไม่สมบูรณ์หลายเรื่อง เพราะนายสินชัยให้การว่าใช้ไม้ทุบตีน้องบ็อบบี้ตรงบริเวณลำตัว ซี่โครงและด้านข้างลำตัว แต่สภาพศพพบมีบาดแผลที่ศีรษะด้วย ซึ่งนายสินชัยให้การว่าไม่ทราบเรื่องบาดแผลที่ศีรษะ เพราะตัวเขาไม่ตั้งใจที่จะตีให้เด็กเสียชีวิตจึงทุบตีตามลำตัวเป็นหลัก
นอกจากนี้ยังมีกรณีรอยฟันต้นกล้วยซึ่งนายสินชัยให้การว่าใช้จอบฟัน แต่จากร่องรอยที่ปรากฏนั้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นรอยมีดฟัน อีกทั้งผู้ต้องหายังให้การสับสนว่าฟันต้นกล้วยเพราะจะตรวจดูว่าเด็กสลบไปแล้วหรือไม่ ทำให้เจ้าหน้าที่สงสัยว่าอาจจะมีผู้ที่ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน จนต้องสอบปากคำเพิ่มเติมอีก
ส่วนที่บ้านเลขที่ 387 หมู่บ้านป่าสักงาม หมู่ 9 ต.ดงมหาวัน นายทรงวุฒิ แปงเรือน อายุ 30 ปี พร้อมด้วยภรรยาที่เป็นแม่เลี้ยงของน้องบ็อบบี้ และลูกสาวอายุ 9 ขวบ กับลูกชายคนเล็กอายุ 4 ขวบ ต่างรอฟังความคืบหน้าทางคดี ท่ามกลางญาติมิตรที่มาให้กำลังใจ เพราะต่างสลดใจต่อคำให้การของผู้ต้องหา
ด้านนายทรงวุฒิกล่าวว่า การประกอบพิธีกรรมทางศาสนาให้กับลูกชายที่เสียชีวิตนั้น คงต้องรอให้การดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับคดีในชั้นต้นนี้ผ่านพ้นไปเสียก่อน และส่วนตัวไม่ขออโหสิกรรมให้ผู้ที่กระทำต่อน้องบ็อบบี้ เพราะไม่เคยรู้จักมักคุ้นหรือแม้แต่เห็นหน้าผู้ต้องหามาก่อนเลย แม้จะมีบ้านใกล้กันแต่ตนก็ออกไปทำงานตลอด
อย่างไรก็ตาม ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจนำผู้ต้องหาชี้จุดเกิดเหตุซึ่งพยายามดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัย ชาวบ้านรวมทั้งพ่อแท้ๆ และแม่เลี้ยงน้องบ็อบบี้ ต่างรวมตัวกันจะไปดูหน้าผู้ต้องหา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพยายามห้ามจนเกิดการชุลมุนกันพักหนึ่ง
