เชียงราย - ตำรวจระดมชุดสืบ-ทีมพิสูจน์หลักฐานคลี่คลายคดีเด็กชาวม้งวัย 7 ขวบตายปริศนา ใบหน้า-ลำตัวมีรอยฟกช้ำ คาด 1-2 วันนี้ได้ข้อสรุป ขณะที่พ่อยันยังไม่ฝังลูกจนกว่า จนท.จะจับตัวคนร้ายมาขมาศพได้
วันนี้ (18 ม.ค. 64) พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้เดินทางไปประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.ทิวา สกุลวัฒนะ ผกก.สภ.เวียงเชียงรุ้ง พ.ต.ท.ณภัทร อดทน สว.(สอบสวน) สภ.เวียงเชียงรุ้ง และชุดคลี่คลายคดี ด.ช.ธนโชต แปงเรือน หรือน้องบ๊อบบี้ อายุ 7 ขวบ ที่หายออกไปจากบ้านเลขที่ 397 หมู่บ้านเวียงคำฟ้า หมู่ 9 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย เมื่อคืนวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนพบเป็นศพเสียชีวิตในดงต้นกล้วยภายในลานตากมันสำปะหลัง เขตบ้านใหม่มหาวัน ม.12
โดยบิดา-มารดาของ ด.ช.ธนโชต ได้ฝากญาติดูแลลูกๆ ทั้ง 3 คน รวมน้องบ๊อบบี้ ระหว่างไปรับจ้างกรีดยางพาราใน อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ตั้งแต่ 14 ม.ค. เมื่อกลับมาบ้านวันที่ 16 ม.ค.ญาติแจ้งว่าน้องบ๊อบบี้หายตัวไป เพื่อนบ้านพยายามช่วยกันค้นหาแต่ไม่พบ จึงได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าเด็กผู้เสียชีวิตน่าจะหายจากบ้านไปในเวลา 16.00 น. วันที่ 16 ม.ค.-12.30 น. วันที่ 17 ม.ค.
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำพยานแล้วอย่างน้อย 4 คน คือ คนเลี้ยงแพะที่อยู่บริเวณดังกล่าว รวมทั้งนายทรงวุฒิ แบ่งเรือน อายุ 30 ปี ผู้เป็นพ่อของเด็กด้วย และพบพยานวัตถุในที่เกิดเหตุเป็นจอบจำนวน 1 ด้าม รองเท้านักเรียนสีน้ำตาล 1 คู่ ท่อนไม้คล้ายฟืน 2 ท่อน รอยรองเท้านักเรียน 1 รอย เศษรถเด็กเล่น 1 ชิ้น ต้นกล้วยที่มีรอยตัดขาด 1 ต้น
พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์กล่าวว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่เริ่มขมวดปมผู้ต้องสงสัยได้บ้างแล้ว แต่อยู่ระหว่างการส่งชุดสายสืบออกหาข่าวและแกะรอยความเคลื่อนไหวพยานแวดล้อม ขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ไปหาลายนิ้วมือแฝงและคราบเลือดต่างๆ เพื่อนำมาประกอบสำนวน ซึ่งดูแล้วเป็นคดีไม่ได้มีความซับซ้อนมากนัก คาดว่าจะสามารถการดำเนินการได้ภายใน 1-2 วันนี้
ขณะที่บ้านของนายทรงวุฒิ ซึ่งเป็นบ้านคอนกรีตชั้นเดียว พบว่ามีชาวบ้านทั้งที่เป็นญาติมิตรที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้งและคนทั่วไปต่างพากันมารอฟังความคืบหน้าทางคดี รวมทั้งรอรับศพน้องบ๊อบบี้ที่ส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เพื่อจะนำไปประกอบพิธีตามความเชื่อทางศาสนาคริสต์ อย่างไรก็ตาม นายทรงวุฒิระบุว่าจะยังไม่นำร่างของ ด.ช.ธนโชตประกอบพิธีจนกว่าจะจับกุมคนร้ายมาขอขมาศพก่อน
นายทรงวุฒิกล่าวว่า หลังจากไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วพวกตนก็พยายามไปถามเพื่อนๆ ของลูกชายที่มักจะเล่นสนุกด้วยกัน แต่เด็กๆ ต่างก็ไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งเกือบ 10 ปีที่ตนออกไปทำงานพักค้างนอกบ้านครั้งละ 2-3 คืนก็มักจะฝากลูกให้ญาติและเพื่อนบ้านช่วยดูแล เพราะไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร และไม่เคยเป็นหนี้ รวมทั้งในหมู่บ้านที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ถึง 9 กลุ่มก็ไม่เคยมีเรื่องราวร้ายแรง ภาพที่เห็นคือน้องบ๊อบบี้จะชอบออกไปเล่นกับเพื่อนๆ ที่มีอายุไล่เลี่ยกันจนเป็นที่คุ้นตา
ส่วนครั้งนี้ตนได้ฝากลูกๆ ไว้กับน้องชายที่เป็นลูกพ่อเลี้ยงของตน ซึ่งเขาบอกว่าได้ออกไปซื้อของเมื่อกลับบ้านก็พบว่าน้องบ๊อบบี้หายไปแล้ว ทำให้เขาเองก็รู้สึกผิดที่ดูแลไม่ดีและอยากให้เจ้าหน้าที่จับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพื่อจะถามคนร้ายว่าทำไมถึงได้ทำกับเด็กได้ลงคอ