บุรีรัมย์ - เจ้าหน้าที่ จ.บุรีรัมย์ แจ้งความดำเนินคดีหนุ่มรับเหมาชาว อ.ปะคำ ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ที่ จ.อ่างทอง ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เดินทางมาจากพื้นที่สีแดงไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ ไม่กักตัว แถมตั้งวงดื่มเหล้า ทำให้มีผู้เสี่ยงสัมผัสเชื้ออื้อ 37 คน
วันนี้ (14 ม.ค.) นายธัชกร หัตถาธยากูร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด, นายวิทิต สฤษฎีชัย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.สาธิต สถิตถาวร ผู้กำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้แทน พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่สนามช้างอารีนา อำเภอเมืองบุรีรัมย์ ถึงสถานการณ์โรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และกรณีที่มีผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจังหวัด
นายธัชกร หัตถาธยากูร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้ จ.บุรีรัมย์ยังมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่เพียง 1 ราย ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนางรอง และยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ที่ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ได้ออกหนังสือสั่งการ คำสั่ง และประกาศเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อ ทั้งการสั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่างๆ รวมถึงคุมเข้มผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่สีแดง 28 จังหวัด หากเข้ามาในพื้นที่บุรีรัมย์จะต้องรายงานตัวต่อผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชม อสม. หรือศูนย์คัดกรองโควิด-19 ในพื้นที่ พร้อมทั้งกรอกแบบคำถามสุขภาพในแบบฟอร์ม ต.8 บร. ผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด และจะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน แต่กลับมีผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อ คือ ชาย อายุ 33 ปี ชาว ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ อาชีพรับเหมาก่อสร้างที่เดินทางมาจาก จ.อ่างทอง ที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่สีแดงหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามประกาศ ศบค. แต่ไม่ได้รายงานตัว ไม่มีการตรวจหาเชื้อ ทั้งไม่กักตัว แถมยังไปตั้งวงดื่มแอลกอฮอล์กับบุคคลอื่น จากนั้นเมื่อเดินทางกลับไปทำงานที่ จ.อ่างทอง เมื่อตรวจหาเชื้อพบติดเชื้อโควิด-19
จากกรณีดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อชายคนดังกล่าวซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 วัน หรือปรับไม่เกิน 5 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368
ด้านนายวิทิต สฤษฎีชัย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากข้อมูลไทม์ไลน์พบว่าชายคนดังกล่าว เดินทางมาที่ อ.ปะคำ ด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพื่อมาร่วมงานศพที่บ้าน พูดคุยทักทาย กอดญาติ และเข้าไปเคารพศพโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ทั้งยังร่วมวงดื่มเหล้ากับบุคคลอื่นในงานด้วย โดยไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรค ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ม.ค. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอปะคำได้รับแจ้งว่าชายคนดังกล่าวเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามป่าโมก มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันจากบ่อนไก่ จ.อ่างทองด้วย
ทางจังหวัดบุรีรัมย์จึงได้ออกค้นหาผู้สัมผัสผู้ป่วยรายนี้ตาม Timeline พบมีผู้สัมผัสทั้งหมดประมาณ 37 ราย แบ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 13 ราย (ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการกลุ่มเสี่ยงสูงเป็นลบ) ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่ำ 24 ราย อยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง สังเกตอาการ จากเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งทำให้ผู้อื่นต้องสุ่มเสี่ยงและได้รับผลกระทบทั้งการดำรงชีวิต และด้านเศรษฐกิจด้วย