เชียงใหม่ - ประธานหอการค้าเชียงใหม่ชี้โควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ดับฝันภาคการท่องเที่ยวที่กำลังส่อฟื้นตัวช่วงไฮซีซัน ทำนักท่องเที่ยวหายวับ 80% สูญรายได้หลายพันล้านบาท ครวญผู้ประกอบการต่างประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง หวังรัฐบาลช่วยผ่อนปรนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนหมุนเวียน พร้อมเร่งอัดฉีดงบกระตุ้น ศก.
นายวโรดม ปิฏกานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากปกติช่วงนี้ของปีอยู่ในช่วงไฮซีซัน และตั้งแต่เดือน พ.ย. 63 เป็นต้นมา บรรยากาศการท่องเที่ยวกำลังเป็นไปอย่างคึกคักและแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวไทยเพียงอย่างเดียวสามารถสร้างรายได้ให้กับจังหวัดเชียงใหม่เดือนละประมาณ 6,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวหายไปกว่า 80% ซึ่งรายได้จากภาคธุรกิจท่องเที่ยวนั้น มีสัดส่วนประมาณ 65% ของ GDP ของจังหวัดเชียงใหม่ ดังนั้นจึงส่งผลกระทบต่อเนื่องอย่างหนักไปยังภาคส่วนอื่นๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยได้แต่หวังว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะคลี่คลายลงไปโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกแรกทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจต่างประสบปัญหาสภาพคล่องและต้องมีการทำเงินทุนที่มีอยู่เดิมพยายามประคับประคองสถานการณ์เรื่อยมาจนดูเหมือนว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดการระบาดระลอกใหม่ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปอีกครั้ง สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการความช่วยเหลือมากที่สุดจะเป็นในเรื่องของเงินทุนหมุนเวียนและการเข้าถึงแหล่งทุน โดยเบื้องต้นพบว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีการออกมาตรการผ่อนปรนเพื่อให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้นซึ่งนับเป็นเรื่องดีในการที่จะช่วยประคับประคองให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้
ขณะเดียวกัน ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เสนอแนะว่า รัฐบาลควรเร่งอัดฉีดเงินงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 4 แสนล้านบาท ที่จัดเตรียมไว้อยู่แล้วออกมาโดยเร็ว เพราะแม้จะมีการทยอยออกมาแล้วบางส่วนแต่ยังไม่เพียงพอ จึงอยากให้มีการอัดฉีดออกมาให้มากขึ้นและกระจายไปให้ทั่วถึงเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายและเงินหมุนเวียนในระบบขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้ด้วยดี พร้อมกันสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาล ทั้งโครงการคนละครึ่งและการจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง ที่มองว่าประสบผลในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเกิดการใช้จ่ายได้จริงในทุกระดับ ซึ่งเห็นด้วยและสนับสนุนที่มีการเพิ่มวงเงินให้ผู้ได้รับสิทธิ และเพิ่มจำนวนผู้ได้รับสิทธิ โดยหากเป็นไปได้อยากให้มีการเพิ่มจำนวนผู้ได้รับสิทธิให้มากขึ้นและทั่วถึงกว่านี้ด้วยน่าจะส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ