ศูนย์ข่าวศรีราชา - กระทบหนัก! โควิด-19 ระลอก 2 ผู้ประกอบการเดินรถสาธารณะพัทยาหยุดวิ่งแล้วกว่า 500 คัน เหตุไม่มีผู้โดยสาร ประธานสหกรณ์เดินรถพัทยาชี้ผู้ให้บริการหลายรายต้องหันไปทำอาชีพอื่น ส่วนรถที่ยังออกวิ่งต้องคุมเข้มมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดตามมาตรฐาน ศบค.
วันนี้ (9 ม.ค.) นายธวัช เผือกบุนนาค ประธานสหกรณ์เดินรถพัทยา เผยถึงผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกที่ 2 ว่า ไม่เพียงแต่ทำให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจของเมืองพัทยาทรุดหนักกว่าการแพร่ระบาดในรอบแรกเท่านั้น วันนี้ ผู้ประกอบการเดินรถสาธารณะกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการไม่มีผู้โดยสารออกมาใช้บริการ
ทั้งนี้ เมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกซึ่งลูกค้าที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาพักผ่อน แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจะทำให้ไม่มีชาวต่างชาติเข้ามาในพื้นที่แล้ว การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในหลายกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยก็ยังถูกยกเลิกไป แต่ผู้ประกอบการก็ยังคงต้องทำมาหากินตามปกติ
“สถานการณ์โควิด-19 ระลอก 2 ที่ทำให้เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ถูกยกระดับให้เป็นพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดสูงสุด ทำให้ผู้ประกอบการเดินรถในกลุ่มสหกรณ์เดินรถพัทยาที่มีทั้งสหกรณ์สองแถว จำนวน 712 คัน และแท็กซี่อีก 170 คัน ต้องหยุดให้บริการแล้วกว่า 500 คัน หรือกว่า 50% เนื่องจากไม่มีผู้โดยสารจนผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเช่ารถ หรือค่าเชื้อเพลิงในแต่ละวันได้”
นายธวัช ยังบอกอีกว่า วันนี้ผู้ประกอบการเดินรถในกลุ่มสหกรณ์เดินรถพัทยาบางรายต้องหันไปประกอบอาชีพอื่นแทน หรือบางรายเลือกที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา แต่ด้วยสหกรณ์เป็นกลุ่มเดินรถสาธารณะที่ต้องให้บริการประชาชนจึงยังจำเป็นต้องจัดให้มีรถออกวิ่งบริการตามเส้นทางต่างๆ แม้จะมีจำนวนน้อยลงก็ตาม
และในสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดเช่นนี้ สหกรณ์ฯ ได้จัดให้มีบริการคิวอาร์โค้ดไทยชนะในรถทุกคันที่ออกวิ่งบริการ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร รวมทั้งจัดเจลล้างมือให้บริการ และจัดที่นั่งแบบเว้นระยะห่างตามมาตรการของ ศบค.
นอกจากนั้น สหกรณ์ฯ ยังลดความเดือดร้อนของผู้ประกอบการด้วยการปรับลดค่าธรรมเนียมรายเดือน หรือเงินกู้ของสหกรณ์ฯ ขณะที่เจ้าของรถบางรายก็ให้ผู้เช่านำรถไปวิ่งโดยไม่เก็บค่าเช่าเพื่อให้สมาชิกมีรายได้จุนเจือครอบครัว ถือเป็นการช่วยเหลือกันในช่วงวิกฤต