พระนครศรีอยุธยา - สุดช้ำ! แม่ค้าส้มตำเจอพิษโควิด-19 ลูกค้าหาย กลับถูกมิจฉาชีพซ้ำเติมเชิดอาหารไม่จ่ายตังค์ โพสต์ลงออนไลน์ เตือนภัยเพื่อนๆ ในกลุ่ม
กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ ทิพย์ปี้ จงเจริญ นำเรื่องราว # เตือนภัยเพื่อนๆ ในกลุ่ม ใจความว่า ขายของก็เหนื่อยพอแล้ว ยังมาโดนไอ้พวกมิจฉาชีพมาในรูปแบบทรงโจร มาตีสนิท ชวนคุย มา 2 คนผัวเมีย ผู้หญิงผมสั้น อายุน่าจะ 40 ได้ ผู้ชายท้วมๆ หน่อย อายุน่าจะ 40 กว่า มาสั่งไก่ย่าง ส้มตำ เยอะมาก มาตีสนิทถามนู่นนี่นั่น จำนวนเงิน 395 บาท ไก่ย่าง 10 กว่าไม้ ส้มตำ 4 ถุง ข้าวเหนียว 8 ห่อ สักพักเมียเดินไปบอกจะไปซื้อครีมก่อนให้ผัวรอส้มตำ พอจะจ่ายตังค์อ้างบอกไปเอาที่เมียก่อน และเอาของไปด้วย สรุป มันหายไปเลย แม่เราก็ใจดีไว้ใจคนเกินไป เราบอกเขาไปนะว่า เอาของไว้ก่อนก็ได้ แต่เขารีบขี่รถไปเลย
#อุททาหรณ์มากๆ เราก็ยุ่งๆ อยู่ คนแบบนี้ หลอกกินคนอื่นไปวันๆ ขอให้คุณไม่เจริญ จิตใจต่ำมาก แม่ค้าเหนื่อยแทบตายกว่าจะได้เงินแต่ละบาท ขอกินดีๆ ก็ได้นะแบบนี้ #ทำแบบนี้มันไม่เจริญหรอกคุณ ก็ขอให้คุณพบแต่เรื่องเลวร้ายนะ สาธุโดนที่#ตลาดหัวรอร้านส้มตำเจ๊กรานต์ ตลาดหัวรอ
วันนี้ (6 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนใกล้เคียงตลาดหัวรอ หมู่ 7/10 ถนนอู่ทอง ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพบกับนางสงกรานต์ สายบาง อายุ 54 ปี แม่ค้าขายส้มตำ กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุช่วงเวลา 14.00 น วันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา วันนั้นเป็นวันหยุดจึงทำให้มีลูกค้ามาซื้อส้มตำไก่ย่างที่หน้าร้านจำนวนมาก
ขณะนั้นมี 2 ผัวเมียขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน แล้วคนที่เป็นผู้หญิงเป็นคนลงมาเลือกซื้อไก่ย่างส้มตำ โดยที่ผู้ชายนั่งคร่อมอยู่บนรถจักรยานยนต์แล้วทำทีเป็นชวนคุยเหมือนคนสนิทกัน ซึ่งตนเองยังแปลกใจว่าไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อนแต่ทำเหมือนคนสนิทกัน แต่พอหันไปมองลูกค้าผู้ชายก็จำได้เคยมาสั่งส้มตำ 1 ถุงเมื่อ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมาตนเองจึงไม่ได้คิดอะไร คนร้ายที่เป็นผู้หญิงก็สั่งส้มตำและเลือกไก่ย่างเสร็จ ให้เอาใส่ถุงจากนั้นทำทีขอตัวเดินไปซื้อเครื่องสำอางที่ร้านข้างๆ ตนเองจึงนำไก่และส้มตำใส่ถุงทั้งหมดคิดเงิน จำนวน 395 บาท
คนที่เป็นผู้ชายเป็นคนลงมารับไก่ย่างส้มตำแล้วอ้างว่าเงินอยู่ที่ภรรยาขอไปเอาเงินที่ภรรยาก่อน ซึ่งจังหวะนั้นตนไม่คิดอะไรจึงส่งของให้คนร้ายซึ่งเป็นผู้ชาย แต่ลูกสาวกลับทักว่าให้เอาของไว้ก่อน มาจ่ายเงินแล้วค่อยเอาของไปแต่ตนเองบอกว่าไม่เป็นไร จังหวะนั้นผู้ชายก็ขับจักรยานยนต์แล้วออกไป ซึ่งตนเองเข้าใจว่าไปเอาสตางค์ที่ภรรยา จนเวลาผ่านไปนานลูกสาวจึงเดินไปดูที่ร้านขายเครื่องสำอางข้างๆ พบว่า 2 ผัวเมียที่มาสั่งส้มตำไก่ย่าง ไม่อยู่ ตนเองก็ยังคิดในใจว่าทั้งคู่คงจะไม่ได้โกงตนเองอาจจะลืมจ่ายตังค์ตนเองรอให้ทั้งคู่กลับมาจ่ายตังค์ก็ไม่ได้ย้อนกลับมา
ลูกสาวจึงนำเรื่องราวดังกล่าวไปแชร์ผ่าเฟซบุ๊กเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยสังคม กระทั่งมีพวกแม่ค้าที่อยู่แถวตลาดหัวรอเข้ามาคอมเมนต์ว่าโดน 2 ผัวเมียลักษณะเดียวกันเข้ามาทำทีสั่งก๋วยเตี๋ยวแล้วเอาของไปโดยไม่จ่ายเงิน ซึ่งมีร้านค้าที่โดนลักษณะนี้เป็นจำนวนมาก จึงอยากจะฝากเตือนร้านค้าให้ช่วยเป็นหูเป็นตาและมัดระมัดระวัง พวกขยะสังคม
นางสงกรานต์ ยังกล่าวอีกว่า ช่วงนี้เจอพิษโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจไม่ดี ขายของไม่ได้ยังมาเจอพวกภัยสังคมซ้ำเติมกันอีก จึงอยากวอนให้เห็นใจพวกแม่ค้ากันบ้างอย่ามาซ้ำเติมกันเลย เหตุการณ์ดังกล่าวตนเองไม่ได้แจ้งความแต่อย่างใด แต่ต้องการนำมาแชร์ให้เป็นการเตือนภัยในสังคมเท่านั้น