บุรีรัมย์ - คุณแม่ชาวบุรีรัมย์โพสต์เตือนภัย ซื้อไส้กรอกตุนให้ลูกกินที่บ้านช่วงโควิด-19 ระบาดลดความเสี่ยงออกไปกินข้าวนอกบ้าน แต่กลับเจอแท่งพลาสติกคล้ายก้านขนมอมยิ้มยัดในไส้กรอก ลูกชายกัดเต็มแรงฟันแทบหัก ไม่ติดใจเอาเรื่องแค่อยากฝากโรงงานใส่ใจความสะอาด ผวาเด็กเล็กกินอันตราย ขณะเจ้าของร้านบอกรับมาขายต่ออีกทอด
วันนี้ (6 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านป่าหนาม ต.ดงพลอง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ว่าไปซื้อไส้กรอกที่ร้านค้าแห่งหนึ่งใน อ.แคนดง มากักตุนไว้รับประทานช่วงโควิด-19 ระบาด แต่กลับเจอสิ่งแปลกปลอมลักษณะเหมือนไม้อมยิ้มเสียบคาอยู่ในไส้กรอก จึงอยากฝากเตือนผู้บริโภคให้สังเกตก่อนซื้อและฝากถึงผู้ประกอบการให้ช่วยดูแลความสะอาดด้วย
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง พบ นางรสสุคนธ์ พรมยา หรือแอน อายุ 36 ปี ชาวบ้านที่เจอไส้กรอกยัดไส้ไม้อมยิ้ม ได้นำไส้กรอกไก่แบบกลมยาวประมาณ 10 ซม.ที่ถูกกัดกินไปแล้วส่วนหนึ่งมาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู พบว่าด้านในของไส้กรอกมีแท่งพลาสติกสีขาวคล้ายกับก้านขนมอมยิ้ม เสียบอยู่กลางแท่งของไส้กรอก
นางรสสุคนธ์เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 63 ตนได้ขับรถไปซื้ออาหารในตัวอำเภอแคนดงเพื่อมากักตุนไว้รับประทานในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็กะซื้อของมาหลายอย่างเพื่อตุนไว้กินหลายวันจะได้ไม่ต้องออกจากบ้านบ่อยๆ เพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งได้แวะซื้อไส้กรอกที่ร้านแห่งหนึ่งเยื้องกับสำนักงานเทศบาลฯ แคนดง โดยซื้อแบบยกถุงมาจำนวน 2 ถุง กะเอาไว้ทอดและนึ่งกิน
โดยวันเกิดเหตุตนนำไส้กรอกมานึ่งให้ลูกชายกินรองท้องก่อนจะออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยวในหมู่บ้านมาให้ลูกกิน ช่วงที่ลูกชายกินก๋วยเตี๋ยวกับไส้กรอกลูกก็ร้องตะโกนเรียกตนเสียงดังว่า "แม่ๆ มาดูอะไร" จึงรีบไปดูพบเป็นแท่งพลาสติกสีขาวยาวเกือบเท่าไส้กรอกเสียบอยู่ในเนื้อไส้กรอก เมื่อดูแล้วก็คล้ายกับแท่งพลาสติกที่ใช้สำหรับเสียบขนมอมยิ้ม จึงได้ถ่ายรูปแล้วโพสต์เตือนภัย
นางรสสุคนธ์บอกว่า ที่นำเรื่องราวไปโพสต์ไม่ได้ต้องการจะเอาเรื่องร้านค้าหรือผู้ผลิต แต่เพื่อให้ผู้บริโภคระมัดระวังจะรับประทานอะไร และฝากให้ผู้ผลิตใส่ใจดูแลเรื่องความสะอาดมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เพราะหากรับประทานโดยไม่ได้สังเกตให้ดีอาจเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก และหากแท่งพลาสติกดังกล่าวเป็นที่เสียบไม้อมยิ้มจริงก็ไม้รู้ว่าติดน้ำลายหรืออะไรมาบ้าง
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านขายอาหารสดและอาหารแห้งเยื้องเทศบาลตำบลแคนดงตามที่ลูกค้าระบุ ก็ได้เจอกับนายชาลี แจ้งจิตร เจ้าของร้าน บอกว่า ที่ร้านรับไส้กรอกมาจากโรงงานมาขายต่ออีกทอดหนึ่งไม่ได้ทำเอง จึงไม่รู้ว่าจะมีอะไรแปลกปลอมหรือไม่เพราะไส้กรอกทุกถุงบรรจุมาจากโรงงาน แต่หากมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในไส้กรอกจริงลูกค้าก็สามารถแจ้งกับทางร้านหรือขอเปลี่ยนสินค้าได้ เพื่อที่ทางร้านจะได้แจ้งไปยังโรงงานให้เก็บสินค้าดังกล่าวคืน เพื่อจะได้ปรับปรุงการผลิตหรือดูแลให้รอบคอบกว่านี้ แต่กรณีที่เกิดขึ้นยังไม่เห็นลูกค้ามาแจ้งหรือขอเปลี่ยนสินค้าแต่อย่างใดเพิ่งมาทราบภายหลังที่มีการโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย
